ทุจริตกองทุนเสมาฯ คาดโอนเงินมากกว่า 22 บัญชี

ก.ศึกษาฯ 20 มี.ค.-ประธานสืบข้อเท็จจริงทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตพบข้อมูลเพิ่มกองทุนเปิด 2 บัญชีเพื่อเก็บและจ่ายเงิน แต่พบมีการโอนเงินทั้ง 2 บัญชี คาดมีการโอนเงินมากกว่า 22 บัญชี พร้อมเร่งสรุปผลสอบไม่เกินสิ้นเดือนนี้


นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เปิดเผยความคืบหน้าในการสืบสวนว่าจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ากองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เปิดบัญชีไว้ 2 บัญชี โดยบัญชีที่ 1 ชื่อ “กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต” เป็นบัญชีฝากประจำ ที่มีเงินประเดิมกองทุน 600 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินกับบัญชีนี้ให้อำนาจคณะกรรมการกองทุนเสมาฯ ตัดสินใจว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปฝากที่สถาบันการเงินใดและให้ใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ได้จากการฝาก และที่ผ่านมาจะนำไปฝากไว้กับธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง ปัจจุบันบัญชีเปิดไว้กับธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการ 


ส่วนบัญชีที่ 2 ชื่อ “กองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเพื่อใช้จ่าย” เป็นบัญชีเงินฝากประจำ อยู่ที่ธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น โดยบัญชีจะเป็นบัญชีที่รับเงินดอกเบี้ยจากบัญชีของเงินสมทบ หรือเงินบริจาคต่างๆ เพื่อนำมาใช้จ่ายในโครงการเสมาพัฒนาชีวิต เพราะฉะนั้นการจ่ายเงินทุกครั้งจะต้องออกจากบัญชีนี้เท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นได้ข้อสังเกตว่าเหตุใดมีการเบิกจ่ายเงินออกไปจากทั้ง 2 บัญชีเพราะโดยหลักการเป็นไปไม่ได้ 


นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ส่วนที่ยังไม่สามารถตรวจสอบชื่อเจ้าของบัญชีผู้รับโอนเงินได้ทั้งหมด เนื่องจากธนาคารเปลี่ยนใช้ระบบ GIRO ซึ่งเป็นโปรแกรมเบิกจ่ายเงินที่ธนาคารคิดขึ้น โดยไม่มีการระบุชื่อผู้รับโอน มีแค่เลขบัญชีและจำนวนเงินที่ธนาคารส่งไปให้เท่านั้น  แต่จากการตรวจสอบโดยไล่ดูย้อนหลังคาดว่าน่าจะมีบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องมากกว่า 22 บัญชีที่ได้แจ้งความไปก่อนหน้า และยังมีบางบัญชีที่ไม่สามารถหาเจ้าของได้ หรือ ปิดบัญชีไปแล้วอีกนับสิบบัญชี และในบรรดารายชื่อเจ้าของบัญชีที่ตรวจสอบพบว่าไม่เกี่ยวข้องนั้นบางคนเป็นเจ้าของบัญชีถึง 10 บัญชี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อมูลบางรายการขาดความชัดเจน จะรายงานถึง นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประสานไปยังธนาคารกรุงไทยขอสำเนาการเบิกจ่ายเงิน เสตทเมนท์ทั้งหมด รวมทั้งจะเสนอขอตั้งกรรมการเพิ่มเติมเนื่องจากมีข้อมูลที่ต้องตรวจสอบจำนวนมาก ต้องดูรายละเอียดเป็นรายปี จำนวนคนที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอ อีกทั้ง ต้องการเร่งสรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็ว เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยผู้ที่เกี่ยวข้องให้ทันวันที่ 30 มี.ค.นี้ เนื่องพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 กำหนดว่าการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ผู้เกษียณอายุราชการไปแล้ว จะต้องตั้งไม่เกิน 180 วันนับจากวันที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งกรณีนี้อาจจะมีข้าราชการที่เพิ่งเกษียณรวมอยู่ด้วย

ผู้ตรวจราชการศธ. กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นผู้ที่กระทำผิดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ที่ประมาทเลินเล่อ และกลุ่มผู้ทุจริต ซึ่งกรณีผู้บริหารระดับสูงอาจเข้าข่ายประมาทเลินเล่อ ขณะที่กลุ่มผู้ทุจริต ตนคิดว่าไม่ได้ทำคนเดียว แต่ไม่ใช่กลุ่มใหญ่ เพราะเรื่องแบบนี้คนยิ่งมาก ความยิ่งแตกไวคงไม่ปล่อยยาวมาถึง 10 ปีได้ อย่างไรก็ตาม มีอีกประเด็นที่จะเสนอให้นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ สั่งการขยายประเด็นการสืบสวนเพิ่มเติม โดยเฉพาะการโอนเงินเข้าบัญชีสถานศึกษา เพราะตามระเบียบ ศธ.ว่าด้วยกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต พ.ศ.2550 กำหนดให้โอนเงินเข้าบัญชีนักเรียนเป็นรายบุคคล แต่จากข้อมูลเช่น ปี 2552 พบว่าเป็นการโอนเข้าสถานศึกษา ซึ่งตรงนี้ต้องรายงานมาว่าโอนให้เด็กอย่างไร ซึ่งถ้าสามารถเคลียร์เรื่องนี้ได้เร็วก็จะเป็นการสร้างความตระหนัก ทำให้เกิดความระมัด ในการตรวจสอบและติดตามได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง