กรุงเทพฯ 19 มี.ค. – ธปท.ประเดิมจัดงาน Bangkok FinTech Fair 2018 ครั้งแรกในไทย แนะเอสเอ็มอีใช้ FinTech ลดต้นทุน พร้อมปรับปรุง พ.ร.บ.ชำระเงินให้ทันภัยไซเบอร์
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาเปิดงาน “Bangkok FinTech Fair 2018” ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งแรกในประเทศไทย ว่า การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางการเงิน มีความรวดเร็วมาก ซึ่ง ธปท.ได้ให้ความสำคัญ เพราะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางการเงินช่วยยกระดับผลิตภาพให้ประเทศไทย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และส่งเสริมให้การเข้าถึงบริการทางการเงินมีความทั่วถึงทั้งประชาชนและธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี มีต้นทุนต่ำลง การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการเงิน ดังนั้น ธปท.จึงส่งเสริมการใช้ FinTech สำหรับเอสเอ็มอี ซึ่งปัจจุบันยอมรับว่ามีเอสเอ็มอีจำนวนมากที่ยังเข้าไม่ถึง ดังนั้น จึงต้องลดช่องว่างและส่งเสริมให้เอสเอ็มอีได้ใช้ประโยชน์จาก FinTech เพราะช่วยลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน
นอกจากนี้ ธปท.ได้ปรับปรุงพระราชบัญญัติการชำระเงินฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 16 เมษายนนี้ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางการเงินและลดช่องว่างจากกฎหมายเดิม รวมทั้งป้องกันภัยทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ประเมินว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น
นายวิรไท กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการนำ FinTech มาใช้ในมิติต่าง ๆ เช่น การโอนเงินด้วยระบบพร้อมเพย์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียน 39 ล้านบัญชี การใช้ QR Code มาตรฐานในการชำระเงิน ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศแรก ๆ ในภูมิภาคอาเซียนที่มีการใช้ QR Code มาตรฐาน การทดลองการชำระเงินข้ามประเทศ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เช่น การสแกนม่านตา เพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ ต้องใช้เวลา จนกว่าผู้บริโภคจะมีความไว้ใจและคุ้นเคย ซึ่งเมื่อเกิดความมั่นใจแล้วเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้มาก
สำหรับงาน “Bangkok FinTech Fair 2018” จัดระหว่างวันที่ 19 – 20 มีนาคม 2561 บริเวณศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 08.30 -18.00 น.ซึ่งเป็นการรวบรวมเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ FinTech ขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกของประเทศ เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการพัฒนาระบบนวัตกรรมทางการเงิน รวมถึงผู้บริโภค ให้ได้รู้จักกับนวัตกรรมทางการเงินที่เป็นประโยชน์ โดยภายในงานมีการออกบูธโชว์นวัตกรรมทางการเงินจากสถาบันการเงิน ภาครัฐ รวมถึงบริษัท FinTech ต่าง ๆ และมีการเปิดให้ทดลองใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วย .- สำนักข่าวไทย