โชว์เฟอร์แท็กซี่ฉุนโดนโพสต์ทำร้ายผู้โดยสาร



นนทบุรี 3 ต.ค.-คนขับแท็กซี่ทะเบียน ทก เข้าพบตำรวจ ยันไม่ได้ทำร้ายผู้โดยสาร หลังถูกโพสต์ทำร้ายร่างกาย และแจ้งความ


3-10-2559 23-49-11 3-10-2559 23-49-51

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (3 ต.ค.59) ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายหนึ่งฤทัย สีธนต์ อายุ 30 ปี ชาวศรีสะเกษ คนขับแท็กซี่ ทะเบียน ทก 904 กทม. ที่ถูกนำภาพไปโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าทำร้ายร่างกายผู้โดยสาร เมื่อวันที่ 30 ก.ย.59 ได้เดินทางเข้า พบ ร.ต.อ.จรยุทธ บุญทอง ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุทำร้าย นายณรชฏต์ มีสายญาติ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 339/19 ซอยลาดพร้าว23 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม. หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้

สืบเนื่องจากมีสมาชิกเฟซบุ๊ก โพสต์ภาพและข้อความว่าถูกแท็กซี่ทำร้ายร่างกาย หลังเรียกจากเมืองทองธานีเพื่อจะไปผ่านฟ้า แต่คนขับแท๊กซี่บอกให้เหมา เพราะเป็นทะเบียน ทก.ไม่มีมิเตอร์ จึงเกิดปากเสียงกัน จึงได้เรียกแท็กซี่คันอื่น แต่คนขับรถคันก่อนกลับมาทำร้าย และมีคนขับรถแท็กซี่คันอื่นๆ อีก 3-4 คน เข้ามาช่วยกันไม่ให้ทำถูกทำร้ายร่างกายก่อนคนขับแท็กซี่จะหลบหนีไป


นายหนึ่งฤทัย กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย.59 ตนเองได้ไปรับผู้โดยสารที่เมืองทองธานี เพราะมีคอนเสิร์ต จากนั้นได้ไปเจอกลุ่มผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งที่เมาเหล้า โบกรถตนเองแล้วบอกว่าจะไปสะพานผ่านฟ้าลีลาศ หรือแถวถนนข้าวสาร ตนเองจึงบอกไปว่ารถยนต์ไม่มีมิเตอร์ ถ้าจะไปต้องเหมา ผู้โดยสารกลุ่มนั้นจึงด่ากลับมาแล้วถามว่าทำไมไม่มีมิเตอร์ ตนเองจึงเดินลงจากรถ แล้วชี้ให้ดูป้ายทะเบียน ว่าทะเบียน ทก จะเป็นรถไม่มีมิเตอร์ ถ้าจะโทรฟ้องร้องให้โทรไปที่เบอร์ 1584 มีปากเสียงอยู่สักพักประมาณ 5-10 นาที ตนเองจึงเดินกลับมาที่รถ จากนั้นได้ขับไปจอดฝั่งตรงข้าม แล้วเดินมาที่เกาะกลาง ผู้โดยสารกลุ่มนั้นได้เรียกแท็กซี่สีชมพู จากนั้นก็มีปากเสียงกับรถแท็กซี่สีชมพูอีก ตนเองจึงไม่สนใจ ขับรถไปจอดหน้าโรงแรมโนโวเทล ต่อมาเห็นรถเจ้าหน้าที่กู้ภัย ขับผ่านไป จึงถามเจ้าหน้าที่ รปภ.โรงแรม ว่าเกิดอะไรขึ้น

“รปภ.บอกว่าข้างในมีเรื่องชกต่อยกัน ตนเองก็ไม่ได้สนใจขับรถต่อไป สำหรับคนที่เมาเหล้า ตนเองขอแนะนำนิดนึง คุณเมาเหล้าคุณต้องมีสติ คุณเอารูปและทะเบียนรถของตนเองไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก หรือโซเชียล ทุกวันนี้ตนเองทำมาหากินอะไรไม่ได้ ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นคนผิด ตนเองมีปากเสียง แต่ตนเองไม่ได้ทำร้ายร่างกายใคร คุณเอารูปรถไปโพสต์ในเฟซบุ๊กจนเสียหาย” นายหนึ่งฤทัย กล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.จรยุทธ บุญทอง ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด สอบปากคำผู้เสียหายแล้วยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ารถคันก่อเหตุเป็นรถแท็กซี่ และทะเบียนคันที่นำไปโพสต์ ส่วนคนขับแท็กซี่หลังสอบปากคำ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ เวลาดังกล่าวคนขับแจ้งว่าจอดอยู่ด้านหน้าโรงแรมโนโวเทล ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วเพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุจริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมงานจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่