“จักรทิพย์”นำทีมส่งสำนวน”คดีล้มบอลไทย”ให้อัยการ

กรุงเทพฯ 13 มี.ค.- ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำทีมพนักงานสอบสวนคดีล้มบอลไทย ส่งมอบให้อัยการตรวจสอบสำนวนก่อนสั่งฟ้องคดีแล้ว ขณะที่รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เชื่อจะดำเนินคดีนี้ได้แน่นอน เพราะมีพยานหลักฐานชัดเจน แม้ว่าจะเป็นคดีแรกของพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ


พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีล้มกีฬาฟุตบอล นำสำนวนคดีส่งมอบให้กับนายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เพื่อตรวจสำนวนคดีก่อนพิจารณาสั่งฟ้องคดี 

พลตำรวจเอกจักรทิพย์ เปิดเผยว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน จนสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้รวม 16 คน แบ่งเป็นกลุ่มนายทุน 6 คน กลุ่มผู้ตัดสิน 1 คน นักกีฬาฟุตบอล 8 คน และประชาชนอีก 1 คน ซึ่งที่ผ่านมาได้สอบสวนพยานได้ทั้งหมด 68 คน แต่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 15 คน ไม่สั่งฟ้อง 1 คน ตามความผิด พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ ปี2556  พร้อมมั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมส่งให้อัยการรวม 10 แฟ้ม กว่า 3,000 หน้า แต่หากจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึง รวมทั้งในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในขณะนี้ก็ยังไม่พบพิรุธที่อาจจะเกิดการล้มบอล ส่วนการดำเนินคดีในครั้งนี้ก็ไม่ได้เกรงกลัวอิทธิพลของบุคคลใดทั้งสิ้น


ขณะที่รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เปิดเผยว่า หลังจากรับสำนวนไว้จะตั้งคณะทำงานตรวจสอบสำนวนอย่างละเอียด และหากมีประเด็นใดสงสัยก็จะเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม และอาจมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาเหมือนหรือต่างกับพนักงานสอบสวนก็ได้

สำหรับคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกที่ได้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ แต่ยืนยันว่า คณะทำงานได้รวบรวมพยานหลักฐานและประสานงานร่วมกันมาโดยตลอด รวมทั้งคดีนี้พบมูลเหตุจูงใจเรื่องการพนัน การติดต่อนักกีฬาฟุตบอล และผู้ตัดสิน รวมทั้งเส้นทางการเงินที่ชัดเจน มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีนี้ได้

สำหรับกลุ่มผู้กระทำความผิด แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มนายทุน ที่ต้องการได้เงินจึงรวมตัวกันจ้างนักกีฬาและผู้ตัดสิน จนพบการกระทำความผิด 5 นัดการแข่งขัน  กลุ่มที่สอง คือกลุ่มนักฟุตบอลอาชีพ และกลุ่มผู้ตัดสิน ที่มีความต้องการได้เงินจากการว่าจ้าง 


ส่วนโทษสำหรับผู้ที่ให้หรือรับเงิน จะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 2 ถึง 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษของผู้ตัดสิน มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี ปรับ 3 ถึง 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

สำหรับผู้ต้องหาที่เห็นว่าตัวเองยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมตามระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุดได้ แต่เชื่อว่าคดีไม่มีความยุ่งยาก และหากสำนวนครบถ้วนสมบูรณ์แล้วก็จะนัดหมายผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลอาญาทันที

ทั้งนี้คณะทำงานอัยการคดีอาญา 6 นัดผู้ต้องหาคดีล้มบอลไทยลีก มาฟังคำสั่งครั้งแรก 24 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น…-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.