กรุงเทพฯ 11 มี.ค.-ตั้งแต่กลางปีที่แล้วไปจนถึงกลางปีนี้ จะมีรถแท็กซี่หมดอายุตามกฎหมายจำนวนมากถึง 35,000 คัน จากปกติเฉลี่ยปีละ 6,000-7,000 คัน ทำให้เกิดปัญหารถใหม่ที่จะนำมาจดทะเบียนเป็นแท็กซี่ไม่เพียงพอ อู่รถไม่มีรถใหม่มาทดแทน คนขับต้องตกงานเป็นลูกโซ่ตามมา
ชายชาวชัยภูมิคนนี้ยึดอาชีพขับรถแท็กซี่มานาน 24 ปี เขาขับแท็กซี่คันนี้มา 9 ปีแล้ว แต่อีก 16 วัน รถกำลังจะหมดอายุใช้งานตามกฎหมาย และอู่แท็กซี่ยังไม่สามารถหารถใหม่มาได้ เขาไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเลี้ยงครอบครัวอีก 5 ชีวิตได้อย่างไร
ขณะที่แท็กซี่หลายคันที่หมดอายุไปแล้ว ก็เดือดร้อนไม่แพ้กัน บางคนใช้วิธีสลับกะกับแท็กซี่คันอื่น แต่ก็เจอปัญหามาส่งรถไม่ทัน เพราะรถติด บางคนต้องเลิกอาชีพนี้ไปอย่างไม่มีทางเลือก
รถแท็กซี้ที่สิ้นอายุตามกฎหมาย หรือแท็กซี่ที่ถูกปลดระวางเหล่านี้ จะมีวันที่กำกับไว้แต่ละคันว่าหมดอายุเมื่อใด หลังจากนั้นกรมการขนส่งจะให้ปลดป้ายทะเบียนออก มีข้อมูลว่าตั้งแต่กลางปี 2560 จนถึงต้นปีนี้มีรถถูกปลดระวางไปแล้วกว่า 25,000 คัน
หมวดอักษรทะเบียนรถแท็กซี่ที่สิ้นอายุใช้งานจะมีไปจนถึงกลางปีนี้ ซึ่งจะทำให้มีจำนวนแท็กซี่ถูกปลดระวางรวมมากถึง 35,000 คัน สูงกว่าปกติที่มียอดเฉลี่ย 6,000-7,000 คันต่อปี ทำให้ขณะนี้เกิดปัญหารถแท็กซี่ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดที่สูงขึ้นอย่างมาก
เจ้าของอู่รถแท็กซี่บอกว่า จากเดิมมีรถอยู่ในอู่ 70-80 คัน แต่หลังจากสิ้นเดือนมีนาคมนี้จะเหลือรถเพียง 30 คันเท่านั้น เพราะรถหมดอายุพร้อมกัน และแทบหารถเพิ่มไม่ได้ เจ้าของอู่อีกหลายรายตระเวนหาจากตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัด เนื่องจากใน กทม.ไม่มีรถ บางรายไปไกลถึงสุโขทัย กำแพงเพชร แต่ก็ยังหายาก
ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ กทม. ประเมินว่าปีนี้มีความต้องการรถใหม่เพื่อจดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่ราว 20,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปกติที่ต้องการปีละ 5,000 คัน ขณะที่กำลังการผลิตรถไม่ได้เพิ่มขึ้น โดยค่ายรถยนต์จะวางแผนการผลิตระยะยาว 5-10 ปี แบ่งสัดส่วนชัดเจนระหว่างรถยนต์ส่วนตัวและรถแท็กซี่ อย่างไรก็ตาม เตรียมหารือเครือข่ายแท็กซี่ และจะเข้าพูดคุยกับกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ช่วยเหลือประสานข้อมูลไปยังค่ายรถยนต์ให้จัดทำแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง ไม่ให้เกิดปัญหาแท็กซี่ขาดแคลนอีก
ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกระบุว่า สิ้นปี 60 มีรถแท็กซี่จดทะเบียนรวม 90,000 คัน ส่วนปีนี้มีรถแท็กซี่ที่จะสิ้นอายุการใช้งานตามกฎหมายกำหนด 20,000 คัน นอกจากปัญหารถแท็กซี่ขาดตลาดที่กระทบทั้งคนขับและผู้ประกอบการ ยังมีระบบร่วมเดินทางอย่างอูเบอร์ เข้ามาแย่งตลาดมากขึ้นอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ