ปปป.คาดแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กับ”พล.ต.ต.สุทธิ”ได้ในสัปดาห์นี้

กรุงเทพฯ 7 มี.ค.- ผู้บังคับการกองปราบปราม ให้ข้อมูลเอาผิด “พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล” ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 แล้ว ขณะที่ ปปป. คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ 


พลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยภายหลังให้ปากคำกับตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.  ว่า วันนี้ได้ให้ข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับ พลตำรวจตรีสุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ไปแล้ว  ส่วนการโยกย้าย พันตำรวจโทชูวิทย์ เจริญนาค รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี และร้อยตำรวจเอกจริยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ปฏิบัติหน้าที่กองปราบปราม ได้มอบหมายงานให้ตามปกติ ซึ่งทั้งสองนายทำงานได้เป็นอย่างดี ไม่มีอาการเครียด และไม่มีปัญหาในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาท 

ด้าน พลตำรวจตรีกมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ ปปป. ยอมรับว่า ได้รับเรื่องที่ผู้บังคับการกองปราบปราม ร้องทุกข์กล่าวโทษ พลตำรวจตรีสุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 แล้ว โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา คาดภายในสัปดาห์นี้ จะแจ้งข้อกล่าวหากับ พลตำรวจตรีสุทธิได้ และคาดว่าจากนี้ไม่เกิน 30 วัน จะสามารถส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. พิจารณาได้ 


ส่วนพนักงานสอบสวนอีก 4 คน ที่รับผิดชอบในคดีนี้ หากมีความจำเป็นจะต้องกันไว้เป็นพยาน ก็จะต้องเสนอความเห็นให้ผู้บังคับบัญชา พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งหากผู้บังคับบัญชาไม่เห็นชอบ ก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม พร้อมยืนยันว่า การที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจด้วยกัน ไม่มีผลต่อคดี และในกรณีนี้ที่พยานหลักฐานเชื่อได้ว่ากระทำผิด ก็ว่ากันไปตามขั้นตอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

นายกฯ ไม่นิ่งนอนใจปัญหา PM 2.5 วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากดาววอส สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ปัญหา ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่