ก.คมนาคม 4 ต.ค. – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟขอนแก่น – แหลมฉบัง ระยะทาง 516 กิโลเมตร ว่า ได้มีการให้ทำการศึกษาความคุ้มค่าระหว่างการใช้หัวรถจักรดีเซลและหัวรถจักรไฟฟ้าว่าใช้แบบใดจะคุ้มค่าต่อต้นทุนมากกว่ากัน รวมถึงให้เพิ่มผลการศึกษาเรื่องการขนส่งผู้โดยสารเข้าไปด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้ลงทุนด้านระบบโครงการพื้นฐานเช่น ระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล หากทางจีนต้องการเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าทางรางมายังประเทศไทยผ่านทางจังหวัดหนองคายน่าจะใช้ระบบรางขนาด 1 เมตรได้ รวมถึงอายุสัมปทานที่จะทำร่วมกับภาคเอกชนในการร่วมลงทุนในขบวนรถไฟอู่จอดและซ่อมบำรุง หลังจากศึกษาพบว่าอาจเป็นรูปแบบสัญญา 30 ปี และสามารถต่อได้อีก 30 ปี ถึงจะมีความคุ้มค่า โดยรายงานผลการศึกษาดังกล่าวที่ส่งเข้าไปยังคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ต้องมีความชัดเจน และสัญญาต่าง ๆ ต้องเปิดกว้าง จึงให้กลับไปทบทวนอีกครั้ง ซึ่งจะมีระยะเวลาในการแก้ไขอีก 60 วัน
สำหรับผลการศึกษาของที่ปรึกษาทางการเงินที่ทำโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนรายงานว่ายังมีข้อบกพร่องและมีหลายจุดที่ยังต้องแก้ไข เช่น ผลตอบแทนของเส้นทาง และการขยายเส้นทางจุดเริ่มต้นจากจังหวัดขอนแก่นไปยังจังหวัดหนองคาย เนื่องจากการสอบถามทางภาคเอกชนพบว่าน่าจะมีความคุ้มค่ามากกว่า รวมถึงให้กลับไปศึกษาปริมาณสินค้าที่สามารถขนส่งมาได้จากเส้นทางรถไฟเส้นอื่นด้วย เพราะปัจจุบันยังมีเอกชนสนใจเพียงแค่ 1 ราย.-สำนักข่าวไทย