จ.สมุทรสาคร 5 มี.ค.-นายกฯพบชาวสมุทรสาคร แรงงานประมงต่างด้าว ย้ำต้องจดทะเบียนให้ถูกกฎหมาย ไม่ขยายเวลาให้แล้ว ติงกระบวนการต่าง ๆ ยังล่าช้า พร้อมชวนประชาชนเลือกคนดีบริหารบ้านเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะได้เดินทางมาที่องค์การสะพานปลา ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยนายกรัฐมนตรีพบปะกับชาวประมง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนที่มารอต้อนรับ ว่า ชาวสมุทรสาครถือว่าโชคดีกว่าจังหวัดอื่น เพราะมีรายได้อยู่ในลำดับต้น ๆ ของประเทศ จึงอย่าน้อยใจหรือคิดว่าตัวเองยากจน การทำงานของรัฐบาลนี้ไม่ได้ขายฝัน แต่เดินหน้าอย่างมีขั้นตอน ดังนั้น อาจติดขัดปัญหาหรือทำให้บางคนได้รับผลกระทบบ้าง อยากให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาลด้วย
“สังคมต้องปรองดอง ทุกคนจึงต้องคำนึงถึงสังคมและพัฒนาจิตใจตนเอง ให้สั่งสอนลูกหลานด้วย ถ้าจะทำให้คนชอบก็แค่แจกเงินลงไป แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้น บางเรื่องอย่างการใช้จ่ายงบประมาณ มีกฎระเบียบที่ต้องยึดและต้องทำให้รอบคอบ การที่นายกฯเป็นหัวหน้าคสช.ไม่ใช่ว่าจะสั่งอะไรก็ได้ ตอนนี้ก็ถูกตรวจสอบอยู่ 400-500 เรื่อง แล้วผมจะทำไปเพื่ออะไร ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อคนไทยทุกคน แล้วยังถูกกล่าวหาว่าสืบทอดอำนาจอีก ซึ่งไม่เป็นความจริง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านเมืองต้องมีกฎหมายและมีประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ ที่สำคัญต้องมีการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นกลไกของระบอบประช่ธิปไตย จึงอยากให้ทุกคนเลือกคนดี มีหลักการ ที่จะพัฒนาประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน จะเลือกใครขอให้คิดให้ดี จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้สอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่า ประชาธิปไตยควรเป็นแบบใด
“ถ้าประชาธิปไตยคือการนำเงินมาแจก ประเทศเสียหายแน่ ที่ผ่านมารัฐบาลนี้ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่อดีตทำไว้หลายแสนล้านบาท ต้องหาเงินมาจ่ายคืน แล้วถามว่าเราจะเลือกแบบนี้อีกหรือ รัฐสวัสดิการเป็นเรื่องดี เป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าให้มากไป ประเทศชาติจะล้มเหลว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี สอบถามว่าใครจะไปเลือกตั้งบ้าง แต่มีคนยกมือจำนวนน้อย นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวว่า “ตาย ๆ ถ้าเป็นแบบนี้จบแน่ ขอให้ไปเลือกตั้งเยอะ ๆ ขอให้คิดให้ดีแล้วไปใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ใช่เลือกเหมือนเดิม ไม่ต้องมาเชียร์ผม ผมมาวันนี้ไม่ได้มาหาเสียง อยากให้ทุกคนคิดว่าการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ ผมกลัวคนที่อยู่ตรงกลาง ที่คิดว่าอะไรก็ได้ แล้วไปเลือกตั้ง หรือไม่เลือก หรือเลือกคนไม่ดี เราจะคิดแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามชาวประมงที่เป็นแรงงานต่างด้าวว่าขึ้นทะเบียนถูกต้องแล้วใช่หรือไม่ ถ้าใครไม่ขึ้นขอให้ไปทำให้ถูกต้อง การเข้ามาทำงานในประเทศไทยต้องศึกษากฎหมายและทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะได้ไม่ต้องกลัวใคร ไม่ต้องถูกหลอกหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสาเหตุที่การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ว่า ติดขัดขั้นตอนต่าง ๆ โดยเฉพาะการพิสูจน์สัญชาติที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศต้นทาง ทำให้ใช้เวลามาก ขณะที่กระบวนการขึ้นทะเบียนภายในประเทศต้องเร่งให้เร็วขึ้น ขณะนี้รัฐบาลใช้การสแกนม่านตาพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ซึ่งจะทำให้เกิดความแม่นยำ การลงพื้นที่วันนี้ เพื่อแสดงถึงความจริงใจให้ไอยูยูได้เห็นว่ารัฐบาลแก้ปัญหานี้จริงจัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการและแรงงานด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการสาธิตการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ one stop service ของจ.สมุทรสาคร และชมการสาธิตระบบฐานข้อมูลการสแกนม่านตา ซึ่งนายกรัฐมนตรียังไม่พอใจมากนักเพราะเห็นว่ายังมีความล่าช้า
“จะต้องให้นายกฯลงไปทำเองทุกเรื่องเลยหรือ เครื่องไม่พอก็ไปสั่งซื้อมาเพิ่มสิ จะต้องรออะไร การขึ้นทะเบียน กฎหมายกำหนดให้สิ้นสุดในเดือนมิภถุนายนนี้ จะไม่ขยายเวลาเพิ่มอีกแล้ว ถ้าใครไม่ทำ ต่อจากนี้ก็ต้องถูกจับเลย ที่ผมพูดไม่ใช่เพราะโมโหหรือไม่พอใจ ถ้าทำดี ๆ ควรจะเสร็จตั้งแต่ชาติที่แล้ว ไม่ใช่ช้าอยู่แบบนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการติดตั้งระบบระบุตำแหน่งเรือประมงไทย (Vessel monitoring system : VMS) และการควบคุมการแจ้งเข้าออกของเรือประมง โดยกำชับให้ติดตั้งให้ครบตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าการติดตั้งจะมีข้อจำกัดเรื่องการทำประมงบ้าง แต่อยากให้ทำให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นเมื่อจับปลามาแล้วจะไม่สามารถส่งขายต่างประเทศได้ ส่วนเรื่องการดูแลเหยื่อจากการณีการค้ามนุษย์และผู้ประสบอุบัติเหตุจากการประกอบอาชีพประมง จะพยายามดูแลอย่างเต็มที่
“หากพบการละเมิดจะต้องถูกจับกุม ขอทุกคนร่วมมือกับรัฐบาล อย่าต่อต้าน เพราหากโดนแบนสินค้าประมง จะยิ่งสร้างความเสียหาย อย่างเอ็นจีโอ ขอให้เข้ามาร่วมมือในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อย่ามองว่ารัฐบาลเป็นศัตรู เพราะรัฐบาลไม่ได้มองว่าเอ็นจีโอเป็นศัตรูเช่นกัน เราต้องแก้ไขปัญหาไอยูยูอย่างยั่งยืนด้วยจิตสำนึก” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองจดจองชื่อพรรคว่า บางกลุ่มตั้งชื่อพรรคไม่เหมาะสม บางชื่อใช้ไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ การตั้งชื่อแปลก ๆ หรือไม่เหมาสมเพื่อต้องการให้เป็นข่าว แสดงว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีเจตนาตั้งพรรคการเมืองหรือทำงานการเมืองจริงจัง ขอให้ประชาชนเลือกให้ดี.-สำนักข่าวไทย
