กรุงเทพฯ 5 มี.ค.- กลุ่มเซ็นทรัลปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจ 5 ปีข้างหน้าก้าวสู่ยุคดิจิตอล มุ่งสู่การเป็น “นิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี”โดยจับมือ JD ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากจีนพัฒนา JD.co.th มุ่งสู่การเป็นบริษัทฟินเทค
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานกลุ่มเซ็นทรัล แถลงยุทธศาสตร์ 5 ปี(2561-2565) ว่า กลุ่มเซ็นทรัลมุ่งที่จะเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ “นิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี” สู่การเป็นผู้นำ ดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม ที่สมบรูณ์แบบที่สุด โดยร่วมทุนกับ JD ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน ด้วยวงเงินร่วมทุนกว่า 17,500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเว็บไซด์ JD.co.th ซึ่งจะพัฒนาแพลฟอร์มนี้ในทุกกลุ่มธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเข้าถึงลูกค้าของกลุ่มธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัลโดยจะเปิดตัวเว็บไซด์ JD.co.th ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ และยังช่วยเปิดโอกาสให้สินค้าไทยและสินค้าเอสเอ็มอีให้มีตลาดกว้างมากยิ่งขึ้นอีกด้วย กลุ่มเซ็นทรัล ยังก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโลจีสติกส์รายใหญ่ของประเทศไทย พร้อมบริการออนดีมานตด์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
กลุ่มเซ็นทรัลยังมุ่งสู่การเป็นบริษัทฟินเทค (Fintech) ให้บริการทางการเงินครบวงจร ครอบคลุมทั้งบริการอีเพย์เมนต์และอีไฟแนนเชียล สำหรับทั้งลูกค้าและซัพพลายเออร์
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวถึงแผนงานในปี 2561 ว่า ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวม 397,308 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 14 โดยจะใช้งบลงทุนกว่า 47,500 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังเดินหน้าพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
กลุ่มเซ็นทรัลโดยบริษัทมีแผนจะเปิดให้บริการศูนย์การค้าและโรงแรมแห่งใหม่ รวม 10 แห่ง ซึ่งรวมทั้งการปรับปรุงเซ็นทรัลเวิลด์โฉมใหม่ด้วย และรวมถึงการเปิดโรงแรมเซ็นทารา เวส์เบย์ เรซิเดนซ์ และสวีท โดฮา ประเทศกาตาร์ เป็นต้น
นายทศ กล่าวถึงผลประกอบการในช่วงปี 5 ปีที่ผ่านมา คือ ปี 2556-2560 ว่า ผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในทุกปี ตัวเลขยอดขายของทั้งกลุ่มเซ็นทรัลมีอัตราเติบโตเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 11 และในปี 2560 ที่ผ่านมาผลประกอบการน่าพอใจโดยแบ่งเป็นยอดขายในประเทศไทยร้อยละ 72 ยอดขายในยุโรปร้อยละ 15 และยอดขายในประเทศเวียดนามร้อยละ 13 โดยคาดการณ์รายได้กลุ่มเซ็นทรัลใน 5 ปีจะเพิ่มเป็น 800,000 ล้านบาท – สำนักข่าวไทย