ตลาดท่องเที่ยวเติบโต ตลาดรีเทลคึกคัก 

กรุงเทพฯ 30 ม.ค.- The 1 Insight  ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล เผยผลวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค พบภาพรวมตลาดรีเทลเติบโตดี   เทรนด์สำคัญปี 67 ได้แก่ การท่องเที่ยว  เทรนด์การดูแลสุขภาพและผู้บริโภคยังเต็มที่กับการใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น  


The 1 Insight   ระบุ   ในปี 2566 ตัวเลขการจับจ่ายในภาคการท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาใช้จ่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง47% ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายเติบโตสูงถึง 70% คาดการณ์การเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักมาจากประเทศมาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และรัสเซีย โดยกลุ่มสินค้าแฟชั่นได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าว

ในส่วนของพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยยังมีแนวโน้มที่จะเดินทางท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศมากขึ้นเช่นกัน  โดย 5 อันดับสิ่งที่คนไทยตั้งใจทำ (New Year’s Resolutions) ในปี 2567  ได้แก่ 1) 57% เดินทางท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2) 54% ดูแลสุขภาพ กิจกรรมยอดนิยม ได้แก่ การออกกำลังกาย ทานอาหารเพื่อสุขภาพ ปรับเปลี่ยนเวลานอน และทานอาหารเสริม/วิตามิน 3) 41% ลงทุนและวางแผนการเงิน 4) 40% ซื้อสินค้าเป็นรางวัลให้ตัวเอง สินค้าที่สนใจ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ สินค้าแฟชั่น/แบรนด์แนม เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องประดับ/จิวเวลรี่ 5) 37% ใช้เวลากับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวต่างประเทศหรือต่างจังหวัดด้วยกัน ไปจนถึงการทำกิจกรรมร่วมกันเช่นการทำอาหาร เป็นต้น


ผลสำรวจพบ ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของการท่องเที่ยว  ยอดใช้จ่ายของคนไทยในต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 31% ส่วนยอดขายสินค้าเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อาทิ กระเป๋าเดินทางที่เติบโตกว่า42% และกล้องถ่ายภาพและวีดีโอที่เติบโตกว่า 39%  ในขณะที่พฤติกรรมการเลือกทานอาหารสุขภาพนั้นส่งผลให้ยอดขายในกลุ่มผักและผลไม้สดสูงขึ้น มีการเติบโตถึง 11% ในปี 2566 และยังส่งผลให้ยอดขายในกลุ่มสินค้ากีฬาออกกำลังกายเติบโตถึง 11% โดยสินค้าเด่นคือรองเท้ากีฬา 22% รวมถึงยอดขายวิตามินและอาหารเสริมที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นถึง 78% จุดที่น่าสนใจคือ ตัวเลขยอดขายนั้นมีการเติบโตสูงสุดในกลุ่ม Gen Z และ Gen Y ซึ่งเป็นกลุ่มคนอายุน้อยเมื่อเทียบกับ Gen X และ Baby Boomer จึงกล่าวได้ว่า ในปัจจุบัน การดูแลสุขภาพเป็นเทรนด์ที่อยู่ในความตระหนักรู้ของผู้คนทั่วไปโดยไม่จำกัดช่วงวัย

นอกจากนี้ เป็นกลุ่มสินค้าความงามที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคหลังโควิด 19 เป็นต้นมา โดยเฉพาะ เครื่องสำอางโต13% และน้ำหอม โต6% เช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าแฟชั่น ที่เติบโตโดดเด่นในกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นโต27% นอกจากนี้ การที่ผู้คนใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นประจำยังส่งผลให้การทานอาหารนอกบ้านที่กลับมาเป็นที่นิยมมากขึ้นตามลำดับ เห็นชัดจากตัวเลขยอดขายร้านอาหารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โต 6% ในปีที่ผ่านมา 

จากข้อมูลข้างต้น เห็นได้ว่าภาพรวมของการจับจ่ายของผู้บริโภคในตลาดรีเทลเริ่มมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศสังคมที่กำลังเข้าสู่ภาวะปกติอย่างเต็มตัวหลังโควิดคลี่คลาย พร้อมด้วยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ทำให้ผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างเต็มที่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลดีต่อสินค้าหลากหลาย   พร้อมยังมีความตระหนักมากขึ้นถึงการดูแลสุขภาพในองค์รวมเพื่อให้สามารถมีความสุขกับชีวิตที่ยืนยาว เรียกได้ว่าผู้คนต่างให้ความสำคัญกับ ‘คุณภาพชีวิต’ ของตนมากขึ้น.-511-  สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร