ตลท. 20 ก.พ. – ผู้บริหารเซ็นทรัล รีเทล ยอมรับเศรษฐกิจไทยปี 63 มีโอกาสโตต่ำกว่าร้อยละ 2 ชี้การระบาดของโรคโควิด-19 กระทบการจับจ่ายในห้างสรรพสินค้าลดลง หลังนักท่องเที่ยวจีนหายไป ระบุพอใจราคาหุ้นเปิดเทรดวันแรก 42 บาท เท่าราคา IPO เดินหน้าขยายสาขาห้างสรรพสินค้าใน 3 ประเทศ
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสที่อัตราการขยายตัวจะโตต่ำกว่าร้อยละ 2 ขณะที่ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกคาดว่าจะโตร้อยละ 2-3 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว และการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งยังต้องประเมินว่าการกระบาดของโรคโควิด-19 จะยาวนานแค่ไหน หากกินระยะเวลานานคงมีผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การที่นักท่องเที่ยวจีนหายไป ทำให้ยอดขายผ่านห้างสรรพสินค้าชะลอลง ซึ่งปกติยอดขายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 5-6 ของรายได้รวม อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง 12/12 ซึ่งมาช่วยทดแทนรายได้บางส่วนที่หายไป
นายญนน์ กล่าวด้วยว่า พอใจกับราคาหุ้น CRC ที่เข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดการซื้อขายที่ราคา 42 บาท เท่ากับราคา IPO ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง การเสนอขายหุ้น IPO ของเซ็นทรัล รีเทลครั้งนี้ มีมูลค่ารวม 78,124 ล้านบาท และเป็นการเสนอขายหุ้น IPO ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก บริษัทตั้งเป้าการเติบโตร้อยละ 10-12 ต่อปี เดินหน้าขยายห้างสรรพสินค้าและปรับปรุงสาขาใน 3 ประเทศ คือ ไทย อิตาลี และ เวียดนาม ด้วยงบลงทุน 35,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ หุ้น CRC จะเป็นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Capitalization) ณ วันที่เข้าทำการซื้อขายใน ตลท.เป็นวันแรกที่ประมาณ 253,302 ล้านบาท (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ซึ่งจะเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 15 ลำดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผลให้ CRC จะได้รับการจัดเข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET50 ด้วยเกณฑ์ Fast-track ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่หุ้น CRC เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก.-สำนักข่าวไทย