ศธ.2 มี.ค.-เลขาธิการคุรุสภา สั่งตั้งคกก.สืบข้อเท็จจริงว่าด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพครู ‘ปรีชา’เบื้องต้นเข้าข่ายประพฤติตนไม่เป็นแบบอย่างที่ดี เตรียมลงพื้นที่สัปดาห์หน้า
นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ เลขาธิการคุรุสภาและนางเกศธิดา เขียวสอาด ผู้อำนวยการสำนักทะเบียน รักษาการผู้อำนวยการสำนักจรรยาบรรณวิชาชีพและนิติการคุรุสภา ร่วมแถลงข่าวกรณีศาลอนุมัติหมายจับนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี คดีแย่งสิทธิ์ในสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 จำนวน30 ล้านบาท ใน 3 ข้อหา 4 มาตรา คือแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ,ผู้ใดแจ้งจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน ผู้ใดรู้ว่า มิได้มีการกระทำผิด แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนว่ามีการกระทำผิด ถ้าการแจ้งข้อความเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า วันนี้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพครูกับนายปรีชา ใคร่ครวญ หลังเชิญฝ่ายกฎหมายมาหารือเกี่ยวกับพฤติการณ์และข้อกล่าวหาของครูปรีชา ว่าเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณวิชาชีพตามข้อบังคับคุรุสภาหรือไม่ เบื้องต้นทั้ง 3 ข้อกล่าวหา ยังไม่เข้าข่ายพฤติกรรมร้ายแรง แต่เข้าข่ายประพฤติตนไม่เป็นแบบอย่างที่ดี แต่ต้องกลับไปดูข้อกฏหมายอีกครั้งว่า
มีผลกระทบต่อผู้เรียนหรือไม่แต่ขณะนี้ต้องให้ความเป็นธรรมเนื่องจากศาลยังไม่มีคำพิพากษาถือว่านายปรีชายังไม่มีโทษแต่ระหว่างนี้ จะดำเนินการสืบข้อเท็จจริงด้านจรรยาบรรณไปพร้อมๆกับศาล โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริงในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากพบว่าผิดจรรยาบรรณ จะมีโทษ ตั้งแต่การว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต ตามกฎหมายจรรยาบรรณวิชาชีพ ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เป็นเรื่องของต้นสังกัดของนายปรีชา คือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จะดำเนินการในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามพฤติการณ์ที่เข้าข่ายผิดจรรยาบรรณจนต้องพักใช้ใบอนุญาตวิชาชีพ คือพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ค้าประเวณี ล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียน นักศึกษาหรือกระทำการล่วงละเมิดทางเพศกับข้าราชการครูบุคลากรทางการศึกษา ถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์หรือทุจริตต่อหน้าที่หากพบว่าเข้าข่ายนี้จะสามารถสั่งพักใช้ใบอนุญาตวิชาชีพได้ทันทีและห้ามกลับมารับราชการครูอีก
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวด้วยว่า สำหรับจำนวนคดีจรรยาบรรณวิชาชีพ ตั้งแต่ปี 2559-2561มีจำนวนทั้งสิ้น1,238 คดี และคดีเสร็จสิ้นแล้ว 254 คดี อยู่ระหว่างกลั่นกรองและสรุปผลการสืบสวนและสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ 41 คดี คดีที่เตรียมเสนอแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณ436 คดี และคดีที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเพื่อสืบสวนจรรยาบรรณ จำนวน 516 คดี .-
สำนักข่าวไทย