fbpx

สภาผู้ส่งออกยืนยันเป้าส่งออกปีนี้โตร้อยละ 5.5

กรุงเทพฯ 2 มี.ค.- สรท.ยืนยันเป้าส่งออกปีนี้โตร้อยละ 5.5 จับตาบาทแข็งค่าและนโยบายสหรัฐทั้งดอกเบี้ยและ America First 


นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภา สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) ยืนยันเป้าการส่งออกปีนี้ว่า จะขยายตัวร้อยละ 5.5 ภายใต้สมมุติฐานเงินบาท อยู่ที่ 31.5 บวกลบ 0.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าการส่งออกปรับตัวดีขึ้นมาก โดยจะขอติดตามตัวเลขการส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมก่อนประเมินตัวเลขการส่งออกต่อไป และต้องติดตามประเด็นที่อาจส่งผลกระทบได้แก่ นโนบายหรือมาตรการภาครัฐที่ประกาศเพิ่ม ด้านเงินบาทต้องการให้มีเสถียรภาพ หลังจากขณะนี้ต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นเช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะทำให้เงินบาทแข็งค่า จึงต้องการให้ภาครัฐช่วยดูแลให้เงินบาทมีเสถียรภาพให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยากเห็นที่ 31.50-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  

ส่วนสถานการณ์การส่งออก ประจำเดือนมกราคม  2561  ขยายตัวร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน นับเป็นอัตราการขยายตัวของการส่งออกที่สูงสุดในรอบ 5 ปี 2เดือน ด้วยมูลค่า 20,101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกในรูปเงินบาท คิดเป็นมูลค่า 652,511 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ  7.1 เมื่อเทียบกับช่วงวเดียวกันปีที่ผ่านมา


ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,220  ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ  24.3  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา คิดเป็นยอดนำเข้ารูปเงินบาท 664,643 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 

สรุปภาพรวมแล้วเดือนมกราคมปีนี้ประเทศไทยขาดดุลการค้า  ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2  มูลค่า 119 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ คิดเป็น 12,132 ล้านบาท โดยเป็นการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบในปริมาณมาก ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท และเพื่อเป็นการควบคุมต้นทุนและส่งเสริมศักนภาพภาคการผลิตในระยะยาว


ส่วนการส่งออกเดือน กุมภาพันธ์คาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 7-8 ด้วยมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายชัยชาญ เจริญสุข เลขาธิการ สรท.  กล่าวว่า  ปัจจัยบวกต่อการส่งออกปีนี้ได้แก่ การขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของโลกและประเทศคู่ค้าหลัก เช่น จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ และกลุ่มประเทศ CLMV เป็นต้น และประเทศคู่ค้าศักยภาพ เช่น เอเชียใต้ รัสเซียและ CIS, ปัจจัยการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อเพิ่มผลิตภาพของการผลิตระยะยาว รวมถึงการเร่งนำเข้าสินค้าทุนเพื่อช่วยลดต้นทุนในช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น และปัจจัยทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตร และราคาสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันปรับสูงขึ้นและทำให้กลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

ส่วนปัจจัยเสี่ยงและต้องติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่ เงินดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปี 2561 เงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 2.88 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ  มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และการตอบโต้ของประเทศคู่ค้าที่มีความเข้มข้นมากขึ้นโดยเฉพาะนโยบาย America First ซึ่งปัจจุบันมีสินค้ากว่า 4 ประเภทของไทยที่ได้รับผลกระทบแล้ว เช่น การเพิ่มภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้า แผงผลังงานแสงอาทิตย์ เหล็กและอลูมิเนียม ยางรัด และมีแนวโน้มจะเพิ่มรายการสินค้าขึ้นในอนาคต และปัญหาด้านโลจีสติกส์การค้าระหว่างประเทศ เช่น การขาดแคลนตู้สินค้า ความแออัดของท่าเรือกรุงเทพ การเจราจรเข้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น 

นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการบริหาร สรท. กล่าวว่า  ค่าเงินบาทปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 31.46 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับฐานค่าเงินที่ใช้ประมาณการการส่งออกในปีนี้ ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 2.51 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ  11  ใกล้เคียงกับสหภาพยุโรปและอังกฤษ ใกล้เคียงกับจีนด้วย แต่แข็งค่ามากกว่าประเทศฟิลิปปินส์อ่อนค่าลงร้อยละ 4.4ดังนั้น ปัจจัยการแข็งค่าของเงินบาท จึงยังคงส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลกในปีนี้ 

สิ่งที่น่ากังวลคือ การปรับเปลี่ยนนโยบายอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งยังไม่คิดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐจริง ๆ ในช่วงนี้  ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้ ทิศทางเพิ่มขึ้นปีนี้จะอยู่ที่ 62-67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้