กรมสุขภาพจิต พบผู้สูงอายุฆ่าตัวตาย สูงอันดับ 2

สธ. 27 ก.พ.-กรมสุขภาพจิต เผยสถิติฆ่าตัวตายสำเร็จในผู้สูงอายุสูง เป็นอันดับ 2 ต่อเนื่องหลายปี สาเหตุสำคัญมาจากความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดโรคเรื้อรังทางกาย และโรคซึมเศร้า เร่งพัฒนาแอพลิเคชั่น ‘สบายใจ’ ป้องกันการฆ่าตัวตายเชิงรุก ประชาชนเข้าถึงง่าย  


น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต  เปิดเผยว่า ปัจจุบันประมาณการมีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 4,000 คนต่อปี และในจำนวนนี้ พบอยู่ในวัยทำงานมากเป็นอันดับ 1 และวัยสูงอายุ มากเป็นอันดับ 2 โดยสาเหตุการฆ่าตัวตายในผู้สูงอายุ 3 อันดับแรกคือความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด,โรคเรื้อรังทางกาย และโรคซึมเศร้าตามลำดับ  สำหรับการป้องกันแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย กรมสุขภาพจิต ได้ใช้มาตรการป้องกันการฆ่าตัวตายซ้ำควบคู่กับการเพิ่มการเข้าถึงบริการ โดยเชื่อมโยงข้อมูลผู้พยายามฆ่าตัวตายในระบบฐานข้อมูลสาธารณสุข(HDC) 


ทั้งนี้ พบว่าร้อยละ 15ของผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จเป็นการพยายามฆ่าตัวตายซ้ำ ซึ่งปัญหาการฆ่าตัวตายในผู้สูงอายุ สืบเนื่องจากปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรโลกที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ คาดการณ์อีก 8 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 14.9 ล้านคน แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มประชากรสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว การที่บุคคลมีอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายและสมองย่อมเสื่อมถอยลง ความสามารถในการทำงานย่อมลดน้อยลงไป รวมทั้งอาจมีข้อจำกัดในการปรับตัว ส่งผลให้ผู้สูงอายุส่วนหนึ่งเกิดภาวะเครียด วิตกกังวล ไม่มีความสุขในการดำรงชีวิต ความพึงพอใจในชีวิตลดลง 


‘กรมสุขภาพจิตได้ดำเนินการพัฒนาเครื่องมือประเมินความพึงพอใจของผู้สูงอายุไทยอย่างเป็นระบบเพื่อรองรับปัญหาสุขภาพจิตที่เกิดกับผู้สูงอายุ ใน 3กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้สูงอายุกลุ่มป่วยคือ ผู้สูงอายุสมองเสื่อมที่มีปัญหาพฤติกรรมและจิตใจ, ผู้สูงอายุที่เป็นโรคซึมเศร้า 2)ผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาสุขภาพ คือ โรคเรื้อรัง, ติดบ้าน, ติดเตียงและ 3) ผู้สูงอายุกลุ่มดี 

ในชมรมผู้สูงอายุ’ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว 

ด้าน นพ.ณัฐกร จำปาทอง ผอ.รพ.จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ รพ.ได้รับมอบหมายจากกรมสุขภาพจิต ให้เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบงานด้าน การป้องกันปัญหาฆ่าตัวตาย ได้พัฒนาแอพลิเคชั่น “สบายใจ”เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายเชิงรุก ให้มีความน่าสนใจ และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงง่าย  

อย่างไรก็ตามเพื่อให้การป้องกันการฆ่าตัวตายได้ผลดียิ่งขึ้น  อยากขอให้สังคมและประชาชนร่วมช่วยกันเฝ้าระวังปัญหาโดยสังเกตผู้ป่วยที่อาจมีความเสี่ยงฆ่าตัวตาย 5 กลุ่มได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยโรคจิตเวช กลุ่มสูญเสีย หรือผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุรุนแรง กลุ่มที่มีประวัติการฆ่าตัวตาย กลุ่มพฤติกรรมก้าวร้าว อารมณ์หุนหันพลันแล่น และ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หากพบว่ามีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงจากเดิม เช่น เก็บตัว ท้อแท้สิ้นหวังหมดหวังในชีวิต พูดสั่งเสีย ถือว่าเป็นสัญญาณเตือน  ขอให้รีบไปพูดคุย จัดการปัญหาให้เบื้องต้น หากยังไม่ดีขึ้น ให้รีบพาไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

ให้เร็วที่สุด  หรือโทรปรึกษาสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง 

สำหรับปัญหาการฆ่าตัวตายในกลุ่มอาชีพตำรวจ นพ.ปทานนท์ ขวัญสนิท จิตแพทย์สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต  เปิดเผยว่า มีหลักฐานเชิงประจักษ์หลายชิ้นที่สนับสนุนว่าตำรวจมีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูงมากเมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

2 อันดับแรก คือภาวะวิกฤติในชีวิตและปัญหาสุขภาพจิตที่พบบ่อย ได้แก่ อาการซึมเศร้า อาการโรคจิตและใช้สารเสพติด 

นอกจากนี้ยังพบว่าตำรวจมีโอกาสพบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ก่อ ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของตนเองและผู้อื่น เช่น อาชญากรรม การฆาตรกรรม การฆ่าตัวตายการข่มขืน ฯลฯ ซึ่งเสี่ยงให้เกิดโรค PTSD( Post Traumatic Stress Disorder) หรือโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจซึ่งหลายการ ศึกษาสนับสนุนว่า หากไม่ได้รับการบำบัดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อพฤติกรรมฆ่าตัวตายในกลุ่มอาชีพตำรวจได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

พายุหนองฟ้ายังไม่สิ้นฤทธิ์ หลายพื้นที่ภาคเหนืออ่วม

1 ก.ย. – พายุ “หนองฟ้า” แม้อ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ทำให้หลายพื้นที่ทางภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่องนับสัปดาห์ จนเกิดน้ำป่าหลากจากบนดอยสูงหลายจุด โดยเฉพาะภาพน้ำป่าหลากลงมาผ่านน้ำตกผาแก่งสร้อย ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล กลายเป็นภาพที่สวยงามแต่น่ากลัว นอกจากนี้ยังมีน้ำทะลักท่วมภาคเหนือตอนล่าง ทั้งที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และอีกหลายอำเภอของ จ.พิษณุโลก.-สำนักข่าวไทย

เปิดวงจรปิดล่า 4 คนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM

1 ก.ย. – เปิดภาพวงจรปิดไล่ล่า 4 คนร้าย สวมชุดปิดบังอำพราง พร้อมอาวุธครบมือ ลอบวางระเบิดตู้ ATM ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยพยายามปล้นเงินในตู้เซฟ แต่ไม่สามารถนำเงินออกมาได้ กล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สาขาบ้านบุ อ.เมืองยะลา จับภาพเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. มี 4 คนร้ายใส่ชุดปิดบังอำพราง สวมหมวกปีกปิดหน้า ถืออาวุธปืน ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องมาวางระเบิดตู้ ATM จากนั้นทั้ง 4 คน หลบไปซ่อนตัว ผ่านไปประมาณ 1 นาที เกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.16 น. โดยคนร้าย 2 คน พยายามงัดตู้เซฟเก็บเงิน ส่วนอีก 2 คน ถือปืนประกบ แต่ไม่สามารถงัดตู้เซฟออกมาได้ จึงหลบหนีไปในเวลา 01.18.10 น. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าตรวจสอบเมื่อเช้าที่ผ่านมา […]

“ปชน.” ยังไม่เคาะโหวตนายกฯ ประชุมต่อพรุ่งนี้

พรรคประชาชน 1 ก.ย.- “ปชน.” ยังไม่เคาะโหวตเลือกใครเป็นนายกฯ พรุ่งนี้ประชุมต่อ “พริษฐ์” เผยสุดท้าย จบ กก.บห.เหตุต้องรับผิดชอบ ไม่ปล่อยโหวตในวง สส. ยันไม่ใช้อารมณ์มาตัดสิน แต่ไม่ลืมอดีตเพื่อไทยฉีก MOU – ภูมิใจไทย ซัด “พิธา” นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน เปิดเผยภายหลังประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส. นับ 90 คน นานเกือบ 4 ชั่วโมงว่า ที่ประชุมมีความเห็นที่หนักหลายหลายคนแสดงความคิดเห็น และมีความหนักใจในการเลือกทางใดทางหนึ่ง ที่ประชุมจึงได้ข้อสรุปว่าเจ้าของประชุมในวันพรุ่งนี้ต่อ เพื่อให้สส. ที่มาในวันนี้และแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม รวมทั้ง สส.ที่ไม่ได้มาร่วมประชุมในวันนี้แสดงความคิดเห็นด้วย ก่อนจะนำความเห็นของสส.มาประกอบกับภาคส่วนอื่น ๆ ซึ่งในการพูดคุยมี 2 ประเด็นที่ชัดเจนคือ ยังยืนยันจุดยืนเดิมว่าสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ คือ การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งพรรคประชาชนได้ออกมาเรียกร้องเรื่องยุบสภามาโดยตลอด ตั้งแต่มีคลิปเสียงหลุดออกมา เพียงแต่ผู้มีอำนาจไม่ตอบสนอง วันนี้ยังยืนยันว่าการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่โดยรวมเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ หากรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจยุบสภาจะยืนดำเนินการยุบสภาก็จะสอดคล้องกับจุดยืนของพรรค ซึ่งพรรคยินดีและพร้อมเลือกตั้ง แต่หากรักษาการนายกไม่ยุบสภาและมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง ก็ต้องใช้กระบวนการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว […]

“วันนอร์” ยันสภาพร้อมโหวต “นายกฯ คนใหม่”

กทม.1 ก.ย.- “วันนอร์” ยันสัปดาห์นี้ สภาฯ พร้อมโหวต “นายกฯ คนใหม่” แต่ต้องให้ทุกฝ่ายมีความพร้อม ชี้ต้องมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบงบประมาณและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ ว่า สัปดาห์นี้ ได้ออกระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 3 วัน คือวันที่ 3-5 กันยายน โดยวันพุธที่ 3 กันยายน จะเป็นการพิจารณากฎหมาย ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน จะเป็นการพิจารณากระทู้แต่ต้องยกเลิกไปเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีทุกคนพ้นจากตำแหน่ง จึงไม่สามารถตอบกระทู้ถามได้ แต่ยังมีเรื่องเพื่อทราบ ที่จะต้องเชิญหน่วยงานมาชี้แจง ขณะที่ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน เป็นการพิจารณาวาระพิเศษ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ค้างอยู่หลายฉบับ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอเข้ามาและมีความจำเป็น ต้องเร่งประกาศใช้จะต้องเร่งพิจารณาโดยไม่มีวาระหารือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยกระบวนการจากนี้สภาผู้แทนราษฎรจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี มี 2 […]