กทม.26ก.พ.-ตลาดรอบบ้านป้าทุบรถวันนี้เงียบเหงา ผู้ค้า 3 ตลาด ‘ตลาดสวนหลวง-รุ่งวาณิชย์-ร่มเหลือง’ ที่ถูกสั่งปิดภายใน 28 ก.พ.นี้ ทยอยเก็บข้าวของออกจากพื้นที่ตามคำสั่งปิด ด้าน กทม.เตรียม 4 ตลาดไว้รองรับ
บรรยากาศบริเวณตลาดย่านเขตประเวศ รอบบ้าน น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ หรือป้าทุบรถ วันนี้(26ก.พ.) ค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้า ทยอยเก็บข้าวของอุปกรณ์ทำมาหากินออกจากพื้นที่โดยเฉพาะ 3 ตลาดที่โดนสั่งปิดภายในวันที่ 28 ก.พ.นี้ คือตลาดสวนหลวง รุ่งวาณิชย์ และร่มเหลือง ท่ามกลางการสังเกตการณ์ ของผู้คนที่ผ่านไปมา ขณะที่หน้าบ้านป้าทุบรถ ไร้ความเคลื่อนไหว
จากการสอบถามผู้ค้าในตลาดที่ถูกสั่งปิด พร้อมใจกันปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่รู้จะไปไหน ไม่มีที่ไป
ขณะที่อีก 2 ตลาด คือตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และยิ่งนรา ที่ตั้งติดอยู่กับบ้านป้าทุบรถ ซึ่งมีใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเชิงพาณิชย์ ได้มีการรื้อถอนผ้าใบ โครงสร้างบางส่วน ที่ยื่นออกมาจากตัวอาคาร และจากการสำรวจ พบว่า ไม่มีการจำหน่ายของสดแต่อย่างใด
นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตประเวศ กล่าวว่า เขตได้จัดพื้นที่ไว้รองรับผู้ค้าทั้งหมด 4 แห่ง คือตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ รองรับได้ 300 แผง ,ตลาดนัดนัมเบอร์วันราม2 จำหน่ายของสด รองรับได้100 แผง ,ตลาดราชพฤกษ์ ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ65 จำหน่ายของสด รองรับได้ 200 แผง และตลาดสุดท้ายคือบริเวณฝั่งตรงข้ามห้าง สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ มีพื้นที่ว่างเปล่า 18 ไร่ สามารถรองรับผู้ค้าได้1,500 แผงซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้ค้าแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือแต่อย่างใด ยืนยันว่าสิ่งที่ทางเขตดำเนินการ ต้องการให้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เขตประเวศมีตลาดที่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งตลาดประมาณ 10 แห่ง
นายธนะสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการตั้งตลาด ภายในวันพรุ่งนี้(27 ก.พ.) โดยผลสรุปชี้ชะตาทั้ง 5 ตลาดจะเป็นอย่างไร ต้องรอผลการประชุมของคณะกรรมการอีกครั้งในวันที่ 28 ก.พ.นี้
ส่วนกรณีที่ศาลปกครองนัดไต่สวนคดีสิ่งแวดล้อม ที่น.ส.บุญศรี ฟ้อง ผู้ว่าฯ กทม.กับพวกรวม 4 คน วันที่ 2 มี.ค.นี้ นายธนะสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่กังวลใดๆ และไม่ท้อต่อการทำหน้าที่ข้าราชการ ขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม มั่นใจตนไม่เคยกระทำความผิด หากต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ก็ยินดี และพร้อมให้ความร่วมมือชี้แจงทุกประเด็นอย่างโปร่งใส .-สำนักข่าวไทย