ธพ.เตรียมหารือปรับสำรองน้ำมันใหม่

กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เตรียมหารือผู้ประกอบการปรับสำรองน้ำมันทางกฎหมาย โดยอาจจะลดสำรองโรงกลั่นฯ จากร้อยละ 6 เหลือร้อยละ 5 และเพิ่มสำรองผู้ค้าน้ำมันจากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 2


นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดี ธพ. เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างการหารือเรื่องปรับการดูแลสำรองน้ำมันให้เหมาะสมกับภาวะการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลง โดยปัจจุบันค้นพบแหล่งปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น เช่น สหรัฐพบจากชั้นหินดินดาน ขณะที่ปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางก็คลี่คลาย อิหร่านได้รับการตรวจสอบไม่ได้มีการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้น  ความจำเป็นในการสำรองน้ำมันดิบจำนวนมากจึงน้อยลง เพราะไทยสามารถสั่งซื้อได้จากหลายแหล่งและรวดเร็วขึ้น ไม่ได้พึ่งพาเฉพาะตะวันออกกลางเท่านั้น ประกอบกับ ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน เสนอว่าน่าจะมีลดสำรองทางกฎหมายของโรงกลั่นลง จากปัจจุบันสำรองร้อยละ 6 แต่ผู้ค้าน้ำมันสำรองเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น และปรับเพิ่มสำรองของผู้ค้าน้ำมันจากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 2 ซึ่งจะทำให้ภาพรวมสำรองทั้ง 2 ส่วนมีตัวเลขเท่าเดิม คือ ร้อยละ 7 และเป็นผลดี คือ โรงกลั่นฯ จะมีถังหรือคลัง เพื่อซื้อน้ำมันจากแหล่งอื่น ๆ เช่น สหรัฐ ตะวันออกกลางเข้ามาก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคา ต้นทุนต่ำลงเป็นประโยชน์ต่อราคาน้ำมัน

“ในอดีตการสำรองของผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นจะมีสัดส่วนเท่ากัน แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลลดสำรองผู้ค้าน้ำมันจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 6 ทางโรงกลั่นเห็นว่าไม่เหมาะสมมีการเสนอให้สำรองเท่ากัน เช่น ฝ่ายละร้อยล 3.5 ซึ่งหากโรงกลั่นลดสำรองได้ก็จะมีถังเก็บน้ำมันซื้อจากแหล่งน้ำมันใหม่ ๆ ได้ทั่วโลกการแข่งขันจะเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อผู้บริโภคต้นทุนจะถูกลง” นายวิฑูรย์ กล่าว 


ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการค้าน้ำมันไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มสำรองน้ำมันสำเร็จรูปเป็นร้อยละ 2 ของปริมาณการค้าน้ำมัน หรือประมาณ 7 วัน จากปัจจุบันสำรองร้อยละ 1 หรือประมาณกว่า 3 วัน เพราะต้นทุนจะเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนกลุ่มโรงกลั่นฯ จะได้ผลดีจากต้นทุนลดลง หากสำรองน้ำมันดิบลดเหลือร้อยละ 5 ก็เท่ากับสำรอง 18 วัน จากเดิมสำรองอยู่ที่ร้อยละ 6 หรือประมาณ  22 วัน ภาพรวมแล้วประเทศไทยยังมีสำรองทางกฏหมายรวม 25 วัน เมื่อรวมกับสำรองทางการค้าของผู้ค้าน้ำมัน ทำให้ประเทศมีสำรองรวมกว่า 30 วัน จึงเพียงพอกับความมั่นคงในภาวะปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง