ธปท.ไม่ขยับดอกเบี้ยขึ้นตามสหรัฐ

กรุงเทพฯ  22 ก.พ. – ผู้ว่าฯ ธปท.ชี้ดอกเบี้ยไทยไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นตามสหรัฐ เน้นดูแลเศรษฐในประเทศเป็นหลัก พร้อมเตือนปีนี้ระวังความผันผวนและการปรับฐานที่รุนแรงของตลาดเงิน – หุ้นโลก 


สถาบันจัดอันดับเครดิตไทย บริษัท ทริสเรตติ้ ร่วมกับ S&P Global Rating จัดงานสัมมนา “Credit Spotlight On Thailand The link To Continental Southeast Asia” นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาตลาดทุนตลาดเงินทั่วโลกมีการปรับฐานและปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ( Market Correction) หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งความผันผวนที่จะเกิดขึ้นยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและอาจเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับมุมมองของตลาดที่ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ( Mismatch) ดังนั้น นักลงทุนต้องไม่ชะล่าใจ ต้องบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ทั้งเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและต้นทุนทางเศรษฐกิจ โดยต้องติดตามผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งหากปรับตัวขึ้นเร็วอาจจะเป็นแรงกดดันทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นเร็วเช่นกัน  แต่ในส่วนของประเทศไทยไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามต่างประเทศทันที เพราะนโยบายการเงินแต่ละประเทศต้องสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก และอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยที่ยังต่ำ สภาพคล่องในประเทศสูง ถือว่าเพียงพอในการรองรับ หากเงินทุนต่างประเทศจะไหลออกไปบ้าง 

นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีกันชนที่สามารถรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดี เนื่องจากไทยมีหนี้ต่างประเทศระดับต่ำเพียงร้อยละ 36 ของจีดีพี มีสภาพคล่องเกินดุลสูง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงถึงร้อยละ 10.8 ของจีดีพี เงินสำรองระหว่างประเทศมีสูงกว่าหนี้ต่างประเทศทั้งหมด 4 เท่า ขณะที่สถานะของสถาบันการเงินแข็งแกร่ง มีการสำรองหนี้เสียสูง และดูแลหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้ดี ส่วนหนี้ของเอกชนไม่ได้สร้างความเปราะบางให้เศรษฐกิจ เพราะมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 76.7 ของจีดีพีเท่านั้น ต่ำกว่าหลายประเทศ และ 3 ใน 5 เป็นหนี้ระยะยาว และหนี้สกุลต่างประเทศ เป็นของบริษัทขนาดใหญ่เพื่อกู้ไปลงทุนต่อ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนบางกลุ่มยังมีความเปราะบาง โดยเฉพาะเอสเอ็มอี แม้สัญญาณเอ็นพีแอลจะดีขึ้น  แต่ยังคงต้องติดตามใกล้ชิด 


ด้านการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทนั้น หลัง ธปท.ตรวจสอบสถาบันการเงินในประเทศที่มีการเก็งกำไรค่าเงินบาท พบว่าสถานการณ์ดีขึ้น การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินบาทไม่หนาแน่นเหมือนที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยภายนอก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กระทบต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน เพราะสาเหตุที่บาทแข็งค่ามาจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

ส่วนตัวเลขการนำเข้าของไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวสูงเกิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ดุลการค้าขาดดุลติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงแรงส่งของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนว่ามีทิศทางดีขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศค่อนข้างดี เพราะมีการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อการผลิตมากขึ้น และส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ที่อนุสรณ์สถานรำลึกสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก