นครปฐม 21 ก.พ.- นายกฯ ชี้สังคมไทยมีปัญหาเพราะคนไร้ระเบียบ เห็นใจป้าทุบรถ-แม่ค้า เตือนเยาวชนอย่าร่วมกลุ่ม We Walk ติงสื่อเสนอข่าวไร้สาระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายของการลงพื้นที่จังหวัดนครปฐม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางถึงสหกรณ์โคนมกำแพงแสน ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยนายกรัฐมนตรีสวมหมวกคาวบอยเยี่ยมชมศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ ก่อนที่จะพูดคุยกับเด็กนักเรียนที่มารอต้อนรับ ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเด็กที่ถือเป็นอนาคตของชาติ สิ่งสำคัญ คือทุกคนต้องรู้ว่าเรียนไปแล้วโตขึ้นจะเป็นอะไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ถามเด็กนักเรียนว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กๆ ตอบว่า อยากเป็นหมอ พยาบาล ช่าง นักวิทยาศาสตร์ และทหาร แต่เป็นทหารไม่ร่ำรวย ต้องเสียสละทำเพื่อชาติ ลุงทำเพื่อพวกเรา ต้องเดินหน้าทำเพื่อชาติ
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทักทายผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกล่าวว่า ทุกคนถือเป็นส่วนหนึ่งของกลไกระบอบประชาธิปไตย จึงต้องมองอนาคตของประเทศ อย่าให้กลับเป็นแบบเดิมทุกอย่าง เพราะมันเสียเวลา ตนไม่ได้ทำเพื่อใคร และอย่าไปฟังคนอื่นที่พูดบิดเบือนเลอะเทอะ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานในการมอบโรงเรือนถอดประกอบได้ เครื่องจักรกลการเกษตร หรือ รถไถ และเครื่องสีข้าว ให้กับผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม บ้านหนองจิก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และกล่าวกับสมาชิกสหกรณ์ฯ และประชาชนที่มาต้อนรับ ตอนหนึ่งว่า ตนเดินทางมาครั้งนี้มาหลายมิติ โดยเฉพาะโครงการไทยนิยม ที่วันนี้เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ วันนี้ไม่ได้มางานการเมือง แต่มาเรื่องงานการบ้าน มาดูข้อมูลที่แท้จริง เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน ไม่ใช่รอฟังการรายงานจากหน่วยงานเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้รัฐบาลต้องสร้างความเท่าเทียมให้ประชาชน ทำกฎหมายให้ทุกคนเข้าถึง มีหลายคนบ่นว่าเดือนร้อนจากคำสั่ง คสช.และกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุม ซึ่งที่จริงมีคนเดือดร้อนเพียงไม่กี่คน ส่วนตามรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า ประชาชนย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นและแสดงออก แต่ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ก็ต้องขออนุญาตก่อน ต้องไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่กีดขวางการจราจร หรือ เกิดอันตรายกับผู้อื่น อย่าบอกว่ารัฐบาลต้องยกเลิกคำสั่งเหล่านี้ เพราะการชุมนุมในสากลก็ละเมิดสิทธิ์คนอื่นไม่ได้ และขอให้ไปดูกฎหมายที่รัฐบาลทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ มีหลายฉบับ เช่น กฎหมายวิสาหกิจชุมชนที่จะทำให้สหกรณ์ต่างๆ เป็นนิติบุคคล สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลแบกปัญหาต่างๆ ไว้มากมาย และโซเซียลก็เล่นข่าวไร้สาระ ซึ่งรัฐบาลสั่งไม่ได้ พลอยทำให้หลายคนตื่นตูมไปด้วย เช่น เรื่องหวย 30 ล้าน เราก็ไม่ได้ซื้อ แต่ปั่นหัวทุกวันจนอยากรู้ว่าหวยเป็นของใคร ทำให้เครียดไปด้วย
“หนึ่งในปัญหาของสังคมไทย คือ ไม่มีระเบียบ ไปจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น ล่าสุดบานปลายจนจะมีการยกเลิกตลาด ทำให้ได้รับความเดือดร้อนกันทั่ว ผมเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะ ไม่ว่าจะเป็นแม่ค้าหรือเจ้าของบ้าน สิ่งสำคัญคือเราต้องมีจิตสำนึก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนตั้งหลักใหม่ เดินหน้าประเทศด้วยไทยนิยม ทำตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงวางไว้ เพื่อให้ประเทศก้าวไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ขอให้ประชาชนฟังรัฐบาล ที่ยังไม่ให้มีการเคลื่อนไหวอย่างเสรีเพราะนานาชาติกำลังจับตาดูอยู่ว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยจะสงบสุข ดังนั้น เมื่อมีเลือกตั้งก็จะต้องเลือกคนดี เพื่อทำให้ได้รัฐบาลที่ดี มีธรรมาภิบาล การที่ตนพูดแบบนี้อาจจะทำให้ถูกนักการเมืองต่อว่า แต่ถ้านักการเมืองดีจริง ตนก็คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้ ที่ผ่านมา ประชาธิปไตยของไทยมีปัญหาการทุจริตเชิงนโยบาย เริ่มตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรี จนลงมาถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็รับผิดชอบ ในภาพรวม แต่สิ่งที่ถูกต้องคือต้องไปไล่ดูว่าใครที่จะต้องเป็นคนติดคุกหากมีการทุจริตคอร์รัปชั่น “หากมาถึงผมก็พร้อมที่จะติดคุก เอ๊ะ หรือไม่ต้องรับผิดชอบ หนีไปเลย”
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรืองการเลือกตั้ง ขึ้นอยู่กับทุกคนว่าจะเลือกอย่างไร ไม่ใช่เลือกไปเรื่อยเปื่อย หรือเลือกตามที่คนอื่นบอก เพราะอำนาจเป็นของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ระบอบประชาธิปไตยนั้นต้องไม่มีผลประโยชน์ต่อรัฐบาล หากพบว่านโยบายหรือโครงการต่าง ๆ มีการทุจริตก็ให้แจ้งตน ส่วนกรณีที่สหกรณ์โคนมกำแพงแสน ยังขาดงบประมาณอีก 70 ล้าน ตนรับปากว่าจะหางบมาให้ แต่ต้องผ่านการพิจารณากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน และหากนำเงินไปลงทุนแล้วมีกำไร ก็ขอให้ส่งเงินกลับมายังรัฐด้วย
“เมื่อวานมีข่าวอีกาจิกนกพิราบแล้วบอกว่าเป็นลางร้ายของรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาก็ถือว่าเป็นลางร้ายแล้ว แต่การลงพื้นที่วันนี้น่ารักทุกคน ตอนนี้อยู่กำแพงแสนต้องบอกว่าคนกำแพงแสนน่ารักที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอฝากเตือนลูกหลาน ว่าอย่าไปร่วมกับกลุ่ม We Walk เพราะคงช่วยไม่ได้หมด กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สัญญาด้วยว่า บ้านเมืองต้องไม่เป็นเหมือนเดิม ลูกหลานจะตีกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ทุกคนต้องพัฒนาตัวเอง.-สำนักข่าวไทย