ยธ.21 ก.พ.- ขีดเส้นสอบปากคำพยานคดีทุจริตแบงค์กรุงไทย 15 มี.ค.นี้ หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนถือว่าสละสิทธิ์
นายขจรศักด์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน 3 เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีทุจริตปล่อยกู้ฟอกเงินธนาคารไทยกับกลุ่มของนายนายพานทองแท้ ชินวัตร ว่า ที่ประชุมมีมติให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมทั้งหมด 9 ปากตามที่ทนายของนายพานทองแท้ได้ยื่นบัญชีพยานขอให้สอบเพิ่ม ซึ่งเดิมได้ขอไว้จำนวน 21 ปาก แต่พิจารณาแล้วเห็นว่าควรสอบเพียงแค่ 8 ปากที่เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งจำนวนนี้ได้เข้ามาให้ปากคำเพียง 6 ปาก และเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมาทนายของนายพานทองแท้ได้ยื่นบัญชีพยานเข้ามาอีก 3 ปาก พนักงานสอบจึงเห็นว่าเพื่อให้ได้ข้อยุติจึงรับไว้สอบปากคำเพิ่มเติมทั้งหมด รวมกับของเดิมเป็นจำนวน 9 ปาก ซึ่งได้ขีดเส้นตายว่าทั้งหมดขอให้มาสอบปากคำภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้และหากไม่มาตามกำหนดนัดจะถือว่าสละสิทธิ์ เพราะหากยังยืดเยื้อต่อไปและมีการขอยื่นบัญชีพยานเพิ่มขึ้นอีกจะทำให้คดีขาดอายุความ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ให้สิทธิผู้ต้องหาตามที่กฎหมายกำหนด แต่ก็ต้องเคารพสิทธิของคณะพนักงานสอบสวนในการทำคดีด้วย
สำหรับคดีนี้คณะพนักงานสอบสวนใช้เอกสารของ ปปง.ซึ่งได้ทำการตรวจสอบเส้นทางเงินอย่างละเอียด และรอบคอบไม่ใช่พยานบุคคล ซึ่งหลังจากสอบปากคำพยานเสร็จสิ้นในวันที่ 15 มีนาคมนี้แล้ว คณะพนักงานสอบสวนฯต้องใช้เวลาในการสรุปสำนวนคดีเพื่อให้พนักงานอัยการพิจารณา ส่วนพนักงานอัยการอาจมีความเห็นสั่งสอบพยานเพิ่มเติมอีกหรือไม่ก็แล้วแต่ดุลยพินิจ หรือผู้ต้องหาอาจจะไปยื่นขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการได้ ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ปลายเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในเดือนธันวาคมปีนี้.-สำนักข่าวไทย