กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – ปตท.และบริษัทย่อยกำไรปี 60 กว่า 1.35 แสนล้านบาท ขณะที่บอร์ดอนุมัติตั้ง PTTTCC
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท.ครั้ง ที่ 2/2561 วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้ง บริษัท ปตท.ศูนย์บริหารเงิน จำกัด (PTT TreasuryCenterCompanyLimited:PTTTCC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 100 มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters : IHQ) และศูนย์บริหารเงิน (Treasury Center : TC) สำหรับบริหารจัดการทางการเงินของบริษัทในกลุ่ม ปตท. อีกทั้งเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการค้าและการลงทุน รายการดังกล่าวไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน และขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่จะต้องรายงาน สารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนแต่เป็นการรายงานการเข้าลงทนุในบริษัท โดยสัดส่วนของการลงทนุตั้งแต่ร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้วของบริษัทที่เข้าลงทุน
นอกจากนี้ ปตท.ได้รายงานผลดำเนินการปี 2560 ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 135,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40,571 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.9 จาก 94,609 ล้านบาทในปี 2559 เนื่องจากผลการดำเนินงานดีขึ้นเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งในส่วนธุรกิจที่ ปตท. ดำเนินการเองโดยเฉพาะธุรกิจก๊าซธรรมชาติและบริษัทในกลุ่ม ปตท.โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ปรับเพิ่มขึ้นมากเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ Accounting GRM เพิ่มขึ้นตามกำไรขั้นต้นจากการกลั่นไม่ รวมผลกระทบจากสตอกน้ามัน (Market GRM) ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ากำไรจากสตอกน้ำมันจะปรับลดลง อีกท้ังราคาปิโตรเคมีก็ปรับตัวสูงขึ้น ในส่วนของธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ยังอยู่ระดับต่ำ ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์ตามราคาอ้างอิงปรับตัวสูงขึ้น และผลการดำเนินงานของ PTTEP ปรับดีขึ้นจากราคาน้ำมันสูงขึ้น และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายลดลงตามการปรับปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งปีนี้ยังมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ และมีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงของตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น แม้จะมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ โดยหลักของ PTTEP ธุรกิจถ่านหินของบริษัท ปตท.โกลบอล แมนเนจเม้นท์ จำกัด (PTTGM) และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จากัด (มหาชน) หรือ PTTGC.-สำนักข่าวไทย