สนามบินภูเก็ตชี้แจงหลังโดนโซเชียลวิจารณ์หนัก

ภูเก็ต 19 ก.พ.-การท่าฯภูเก็ต ขอโทษประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง กรณีถูกโพสต์วิจารณ์ ความแออัดและราคาสินค้าแพงเกินควร อ้างอยู่ระหว่างการปรับปรุงและขยายพื้นที่อาคารผู้โดยสาร 


หลังมีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ paithoon Tou Monpanthon ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่าเชิญแชร์ประสบการณ์สำหรับคนที่เคยเดินทางผ่านสนามบินภูเก็ต เพื่อให้ได้ยินถึงผู้รับผิดชอบ ใจความโดยรวมมีการวิจารณ์ถึงการให้บริการของสนามบิน ที่ทำให้ตนเองและนักท่องเที่ยวรายอื่นๆ ไม่ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยเฉพาะความแออัดเรื่องของสถานที่ของอาคารผู้โดยสาร และอากาศภายในที่ร้อนจัด นักท่องเที่ยวที่รอขึ้นเครื่องต้องอยู่กันอย่างเบียดเสียด  โดยผู้โพสต์มีการพูดถึงจำนวนร้านค้าว่ามีมากกว่า จำนวนพื้นที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวรอขึ้นเครื่อง ไปจนถึงราคาสินค้าภายในสนามบินที่แพงลิบลิ่ว โดยภายหลังปรากฏว่ามีผู้กดแชร์ข้อความของผู้โพสต์รายนี้ออกไปอย่างกว้างขวาง


ล่าสุดร้อยโท สัมพันธ์  ขุทรานนท์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต สายปฏิบัติการและบำรุงรักษา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงประเด็นนี้ว่า พื้นที่จุดที่ผู้ใช้เฟสบุ๊กรายดังกล่าวพูดถึง คือบริเวณอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งทางท่าอากาศยานภูเก็ตขอน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด และขออภัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร โดยสาเหตุของปัญหาเพราะขณะนี้ทางท่าอากาศยานอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่และขยายอาคารผู้โดยสารภายในประเทศตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานระหว่างปี 2553-2557 แต่การก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่เป็นไปตามแผน ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ เนื่องจากทางสนามบินต้องจัดสรรพื้นที่ให้บริการไปพร้อมๆกับการปรับปรุงเพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่ขณะนี้มีตัวเลขเดินทางผ่านสนามบินภูเก็ตปีละราว 17 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 10 % ต่อปี 


อาคารผู้โดยสารภายในประเทศมีพื้นที่ทั้งหมด 40,000 ตารางเมตร ซึ่ง 20,000 ตารางเมตร เป็นส่วนที่ปิดปรับปรุง ส่วนที่เหลือเป็นร้านค้าและพื้นที่พักคอยของผู้โดยสารระหว่างรอขึ้นเครื่องทำให้เกิดความแออัด ส่วนเรื่อของอากาศที่ร้อนนั้น เนื่องจากระบบทำความเย็นที่เป็นแกนหลักอยู่ในพื้นที่โซนที่ปรับปรุงทำให้ความเย็นยังกระจายไม่ทั่วถึง

ส่วนที่ผู้โพสต์ตั้งข้อสังเกตว่า สินค้าและอาหารภายในสนามบินมีราคาแพงมากนั้น ทางรองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ยอมรับว่า เป็นความจริง  โดยทางท่าอากาศยานได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยแบ่งพื้นที่โซนอาหารที่ราคาแพง และราคาย่อมเยาว์ออกจากกัน โดยอาหารเริ่มต้นที่ 80 เป็นต้นไปไว้บริเวณชั้นที่ 3 แต่เนื่องจากพื้นที่ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุง ทำให้ไม่มีป้ายประชาสัมพันธ์ที่ชัดเจน ซึ่งยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของการท่าที่ไม่ได้ติดตั้งป้ายให้ชัดเจน ระบุว่าหลังจากนี้จะเร่งติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์เรื่องร้านอาหาร เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นทางเลือก พร้อมยืนยันว่าปัญหาทั้งหมดที่ผู้โพสต์ได้วิจารณ์นั้นจะหมดไปอย่างแน่นอนภายในเดือนมิถุนายน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง