กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – AOT เคาะตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางศึกษาแนวทางแก้ไขกรณี บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ขอยกเลิกสัญญาร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ AOT พร้อมเผยนัดถก คิงเพาเวอร์ฯ พรุ่งนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกัน
น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ซึ่งมีนายอภิรัฐ ไขยวงศ์น้อย ประธานกรรมการ AOT เป็นประธานที่ประชุมได้เร่งรัดให้ดำเนินการแต่งตั้งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT และจ้างที่ปรึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อศึกษาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT โดยเร็ว โดยที่ปรึกษาจะศึกษาประเด็นด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์การเงินและการบริหารธุรกิจ เพื่อวิเคราะห์ข้อจำกัดของสัญญาเดิม รวมถึงเสนอแนวทางที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 60 วัน ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ AOT จะหารือร่วมกับคิงเพาเวอร์ฯ ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด
น.ส.ปวีณา ยังเปิดเผยด้วยว่า AOT ได้นัดหมาย คิงเพาเวอร์ฯ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือที่ทาง คิงเพาเวอร์ฯ ส่งมาทั้ง 7 ข้อ เพื่อตีความถึงความหมายที่แท้จริงว่าทางสิ่งที่ คิงเพาเวอร์ฯ ต้องการคืออะไรบ้าง เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน โดยทาง AOT จะได้นำข้อมูลส่งต่อให้กับทีมที่ปรึกษา เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลในรายละเอียด สำหรับการหาทางออก ย้ำว่าการพูดคุยพรุ่งนี้ยังไม่ใช่การเจรจา
AOT ทำสัญญาเชิงพาณิชย์กับ คิงเพาเวอร์ฯ 3 สัญญา โดย AOT มีรายได้จากการอนุญาตให้ คิวเพาเวอร์ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยาน 5 แห่งปีละ 17% จากรายได้ทั้งหมด (ปี 2567 AOT มีรายได้รวม 63,000 ล้านบาท)
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า แนวโน้มเรื่องนี้จะจบอย่างไร แต่ได้มีการประเมินไว้ 3 กรณี คือ 1.ยกเลิกสัญญา 2.คงสัญญาเดิมไว้ และ 3.ปรับแก้ไขสัญา อย่างไรก็ดีหากมีการยกเลิกสัญญาก็ไม่ส่งผลกระทบกับรายได้ของ AOT เนื่องจากทั้ง 3 สัญญา มีวงเงินค้ำประกัน (Bank Guarantee) ที่ คิงเพาเวอร์ฯ วางไว้เป็นหลักประกันตามหลักเกณฑ์ในสัญญา ส่วนค่าตอบแทนที่ คิงเพาเวอร์ฯ ค้างชำระอยู่นั้นยังไม่เกินวงเงินค้ำประกัน (Bank Guarantee)
“ขอยืนยันว่าบริษัทฯ ยังมีสถานะทางการเงินมั่นคงแข็งแรงและยังมีแผนหารายได้เพิ่มจากแหล่งอื่นๆ เช่น รายได้จากค่าใช้บริการระบบไฟฟ้า 400 Hz ระบบปรับอากาศ PC AIR โครงการผู้ให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของผู้ประกอบการรายที่ 3 และการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์โดยรอบท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ที่จะก่อให้เกิดรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) และยืนยันว่า AOT ยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับโครงการลงทนในอนาคตและการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินขององค์กร. -517-สำนักข่าวไทย