ธปท.เปิดบริการเรียกเก็บเงินผ่านระบบพร้อมเพย์

กรุงเทพฯ 14 ก.พ. – ธปท.เปิดให้บริการเรียกเก็บเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 17 ก.พ. อำนวยความสะดวกผู้ซื้อและผู้ขาย


นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถาบันการเงินในไทยและบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด ได้ร่วมกันพัฒนาบริการเรียกเก็บเงิน (Request to Pay) ผ่านระบบพร้อมเพย์ บริการเรียกเก็บเงินผ่านระบบพร้อมเพย์เป็นบริการต่อยอดบนโครงสร้างพื้นฐานของระบบพร้อมเพย์ที่มีมาตรฐาน โดยระบบกลางจะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป และธนาคารจะทยอยให้บริการต่อไป

สำหรับบริการเรียกเก็บเงินผ่านระบบพร้อมเพย์เป็นบริการที่ช่วยให้ร้านค้าและภาคธุรกิจ สามารถส่งข้อความแจ้งไปยังผู้ซื้อเพื่อขอให้ชำระเงิน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกผู้ประกอบธุรกิจ ร้านค้ารายย่อย รวมถึงร้านค้าออนไลน์ (e-Commerce) ให้มีช่องทางเรียกเก็บเงินและรับชำระเงินได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ขณะที่ประชาชนจะได้รับความสะดวกในการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลายมากขึ้น การใช้งานบริการเรียกเก็บเงินเมื่อการซื้อขายเสร็จมีขั้นตอนการใช้งาน 2 ขั้นตอน คือ 1.การส่งแจ้งเตือน ผู้ใช้บริการที่เป็นฝ่ายรับชำระเงิน เช่น ร้านค้า ผู้ขายสินค้าออนไลน์ ส่งข้อความแจ้งผู้ซื้อที่จะเป็นผู้จ่ายเงิน เพื่อขอให้ชำระเงินกลับด้วยการระบุหมายเลขพร้อมเพย์ของผู้จ่ายเงิน และ 2.การชำระเงินหลังรับการแจ้ง เมื่อผู้ซื้อหรือผู้จ่ายเงินได้รับข้อความแจ้งผ่านช่องทางของธนาคารที่ใช้บริการ เช่น โมบายแอพพลิเคชั่นของธนาคาร (Mobile Banking) สามารถเลือกยืนยันการชำระเงินได้ ทั้งนี้ ผู้ที่จะใช้บริการเรียกเก็บเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ทั้งการส่งแจ้งและการรับแจ้งสามารถลงทะเบียนพร้อมเพย์และเปิดใช้บริการตามช่องทางที่ธนาคารกำหนอ โดยผู้ที่สนใจใช้บริการสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มได้จากธนาคารที่ร่วมให้บริการ และสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการได้จากเว็บไซต์ ธปท. หัวข้อ “ระบบการชำระเงินพร้อมเพย์…การเงินยุคใหม่ คนไทยยุคดิจิทัล รายชื่อผู้ให้บริการพร้อมเพย์”


การปรับระบบให้รองรับบริการใหม่นี้ ระบบพร้อมเพย์จะปิดให้บริการชั่วคราวในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 01.00 – 03.00 น. ซึ่งเป็นการปิดระบบตามปกติเพื่อรองรับบริการใหม่ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวลูกค้าสามารถใช้บริการโอนเงินผ่านช่องทางอื่น ๆ ของธนาคารได้ตามปกติ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารทุกแห่ง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง