โพลล์วัยรุ่นปฏิเสธมีเพศสัมพันธ์วันวาเลนไทน์

กทม.12 ก.พ.-พม.-นิด้าโพลล์ เปิดผลสำรวจ ‘วาเลนไทน์ของวัยรุ่นไทย รักอย่างไรไม่ให้ทุกข์’ พบกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 20 ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มาก ขณะที่พบกว่าร้อยละ 54 ปฏิเสธการขอมีเพศสัมพันธ์ในวันดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ถึงวัยอันควร ไม่อยากเสียอนาคตและการแสดงความรักมีหลายรูปแบบ 


พม. Poll ศูนย์สำรวจความคิดเห็นทางสังคม โดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1–12 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง “วาเลนไทน์ของวัยรุ่นไทย รักอย่างไรไม่ให้ทุกข์” โดยสำรวจระหว่างวันที่13-22 ธ.ค.2560 จากวัยรุ่นไทยที่มีอายุระหว่าง14-19 ปี กระจายทุกระดับการศึกษาทั่วประเทศ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ(Survey Research) โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) รวมขนาดตัวอย่างทั้งสิ้น 4,800 หน่วยตัวอย่าง เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีลงพื้นที่ภาคสนาม กำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 95.0


จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงสิ่งที่นึกถึง เมื่อพูดถึงวันวาเลนไทน์ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 64.19 ระบุว่า ดอกไม้/ดอกกุหลาบ รองลงมา ร้อยละ 37.65 ระบุว่า ความรักในครอบครัว ร้อยละ 34.65 ระบุว่า ช็อคโกแลต ร้อยละ 29.31 ระบุว่า ความรักจากแฟน ร้อยละ 28.73 ระบุว่า ตุ๊กตา ร้อยละ 23.08 ระบุว่า สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ ร้อยละ 0.25 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ถุงยางอนามัย/การมีเพศสัมพันธ์, เงิน-ทอง และร้อยละ 10.29 ไม่นึกถึงอะไรเลย/ไม่สนใจ


เมื่อถามถึงสิ่งอยากทำมากที่สุดในการแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.25 ระบุว่า มอบสิ่งของ/ของขวัญ รองลงมา ร้อยละ 60.94 ระบุว่าส่งข้อความทางโซเชียลมีเดีย โดยส่วนใหญ่จะส่งทาง Facebook, Line ร้อยละ 41.90 ระบุว่า มอบดอกไม้ ร้อยละ 21.04 ระบุว่า ดูหนัง ร้อยละ 20.85 ระบุว่า ทานอาหาร ร้อยละ 12.65 ระบุว่า เดินเล่นตามห้าง/ชมแสงไฟ ร้อยละ 10.19 ระบุว่า ส่งการ์ด/กลอน และร้อยละ 4.10 ระบุว่าไม่ทำอะไร

สำหรับการให้ความสำคัญของวันวาเลนไทน์ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.35 ให้ความสำคัญของวันวาเลนไทน์ในระดับปานกลาง รองลงมา ร้อยละ 20.69 ระบุว่า ระดับมาก ร้อยละ 8.90 ระบุว่า ระดับน้อย ร้อยละ 8.38 ระบุว่า ระดับมากที่สุด ร้อยละ 4.54 ระบุว่า ระดับน้อยที่สุด และร้อยละ 4.15 ระบุว่า ไม่ให้ความสำคัญเลย ในส่วนของวิธีการแก้ปัญหา หากมีปัญหาความรักกับแฟน/คู่รัก พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.73 ระบุว่า หันมาคุยกันและปรับความเข้าใจกับแฟน รองลงมา ร้อยละ 37.63 ระบุว่า หาที่ปรึกษาที่เราไว้ใจ ร้อยละ 29.56 ระบุว่า ไปหาเพื่อน ร้อยละ 20.27 ระบุว่า ไปเที่ยว ร้อยละ 17.58 ระบุว่า อยู่เงียบ ๆ คนเดียว ร้อยละ 10.67 ระบุว่า สังสรรค์ ดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 8.96 ระบุว่า ระบายความรู้สึกผ่านทางโซเซียลมีเดีย เช่น Facebook, Line ร้อยละ 6.33 ระบุว่า ไปวัด ร้อยละ 0.06 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ เลิกคบกับแฟน และร้อยละ 9.88 ระบุว่า ไม่เคยมีปัญหา

เมื่อกล่าวถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร (ในวัยเรียน) เป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่ พบว่าวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.06 ระบุว่าไม่เหมาะสม รองลงมา ร้อยละ 16.77 ไม่แน่ใจ/ไม่ระบุ และร้อยละ 6.17 ระบุว่าเหมาะสม ในส่วนประเด็นการมีเพศสัมพันธ์เป็นการแสดงออกถึงความรักหรือไม่ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.54 ระบุว่าไม่ได้เป็นการแสดงออกถึงความรัก รองลงมา ร้อยละ 25.33 ไม่แน่ใจ/ไม่ระบุ และร้อยละ 12.13 ระบุว่า ใช่

สำหรับการตัดสินใจหากแฟนหรือคู่รักขอมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ พบว่าวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.29 ระบุว่า ปฏิเสธ รองลงมาร้อยละ 35.56 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ร้อยละ 9.71 ระบุว่า ยินยอม และร้อยละ 0.44 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ถ้าอยู่ในวัยที่เหมาะสมแล้วจะยินยอมไม่ใช่เรื่องแปลก ให้ดูตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับบรรยากาศและอารมณ์ ทั้งนี้ในจำนวนของตัวอย่างที่ระบุว่าปฏิเสธให้เหตุผลว่ายังไม่ถึงวัยอันควร, ไม่อยากเสียอนาคต,การแสดงความรักมีหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์,ผิดหลักขนบธรรมเนียมประเพณีไทย และรักนวลสงวนตัว ไม่ชิงสุกก่อนห่าม ส่วนตัวอย่างที่ระบุว่ายินยอม ให้เหตุผลว่า ความต้องการทางเพศ, เป็นการแสดงความรัก และเป็นเรื่องปกติ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงวิธีการที่จะแสดงความรักอย่างมีความสุขและเหมาะสมในวันวาเลนไทน์ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.23  ระบุว่า แสดงความรักด้วยการให้ดอกไม้และสิ่งของต่าง ๆ ที่แสดงถึงความรัก  รองลงมา ร้อยละ 33.24  ระบุว่า ไปเที่ยวกับครอบครัว หรือพาคนรักไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว ไปกินข้าว  ร้อยละ 19.26  ระบุว่า มอบความรัก ความจริงใจ ร้อยละ 4.03  ระบุว่า รักและดูแลเอาใจใส่กันภายใต้ความเหมาะสมของวัย อยู่ในกรอบของผู้ใหญ่ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง  ร้อยละ 2.23  ระบุว่า ชวนกันทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์มีประโยชน์ต่อสังคม เช่น ทำบุญบ้านเด็กกำพร้า บริจาคสิ่งของ

เมื่อพิจารณาลักษณะข้อมูลทั่วไปของตัวอย่าง พบตัวอย่างร้อยละ 50.00 เป็นเพศหญิงและเพศชายในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 20.90 อายุ 14 ปี รองลงมาร้อยละ 18.21 อายุ 15 ปี ร้อยละ 17.96 อายุ 18 ปี ร้อยละ 17.54 อายุ 19 ปี ร้อยละ 15.50 อายุ 17 ปี และร้อยละ 9.90 อายุ 16 ปี และเมื่อแบ่งกลุ่มวัยรุ่นไทย พบว่า ร้อยละ 51.00 เป็นวัยรุ่นตอนปลาย (อายุ 17-19 ปี) และร้อยละ 49.00 เป็นวัยรุ่นตอนกลาง (อายุ 14-16 ปี) และตัวอย่างร้อยละ 39.04 ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. รองลงมาร้อยละ 38.35 มัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 14.88 อนุปริญญา/ปวส.และร้อยละ 7.73 ปริญญาตรี.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]