โพลล์วัยรุ่นปฏิเสธมีเพศสัมพันธ์วันวาเลนไทน์

กทม.12 ก.พ.-พม.-นิด้าโพลล์ เปิดผลสำรวจ ‘วาเลนไทน์ของวัยรุ่นไทย รักอย่างไรไม่ให้ทุกข์’ พบกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 20 ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มาก ขณะที่พบกว่าร้อยละ 54 ปฏิเสธการขอมีเพศสัมพันธ์ในวันดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ถึงวัยอันควร ไม่อยากเสียอนาคตและการแสดงความรักมีหลายรูปแบบ 


พม. Poll ศูนย์สำรวจความคิดเห็นทางสังคม โดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1–12 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง “วาเลนไทน์ของวัยรุ่นไทย รักอย่างไรไม่ให้ทุกข์” โดยสำรวจระหว่างวันที่13-22 ธ.ค.2560 จากวัยรุ่นไทยที่มีอายุระหว่าง14-19 ปี กระจายทุกระดับการศึกษาทั่วประเทศ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ(Survey Research) โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) รวมขนาดตัวอย่างทั้งสิ้น 4,800 หน่วยตัวอย่าง เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีลงพื้นที่ภาคสนาม กำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 95.0


จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงสิ่งที่นึกถึง เมื่อพูดถึงวันวาเลนไทน์ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 64.19 ระบุว่า ดอกไม้/ดอกกุหลาบ รองลงมา ร้อยละ 37.65 ระบุว่า ความรักในครอบครัว ร้อยละ 34.65 ระบุว่า ช็อคโกแลต ร้อยละ 29.31 ระบุว่า ความรักจากแฟน ร้อยละ 28.73 ระบุว่า ตุ๊กตา ร้อยละ 23.08 ระบุว่า สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ ร้อยละ 0.25 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ถุงยางอนามัย/การมีเพศสัมพันธ์, เงิน-ทอง และร้อยละ 10.29 ไม่นึกถึงอะไรเลย/ไม่สนใจ


เมื่อถามถึงสิ่งอยากทำมากที่สุดในการแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 61.25 ระบุว่า มอบสิ่งของ/ของขวัญ รองลงมา ร้อยละ 60.94 ระบุว่าส่งข้อความทางโซเชียลมีเดีย โดยส่วนใหญ่จะส่งทาง Facebook, Line ร้อยละ 41.90 ระบุว่า มอบดอกไม้ ร้อยละ 21.04 ระบุว่า ดูหนัง ร้อยละ 20.85 ระบุว่า ทานอาหาร ร้อยละ 12.65 ระบุว่า เดินเล่นตามห้าง/ชมแสงไฟ ร้อยละ 10.19 ระบุว่า ส่งการ์ด/กลอน และร้อยละ 4.10 ระบุว่าไม่ทำอะไร

สำหรับการให้ความสำคัญของวันวาเลนไทน์ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.35 ให้ความสำคัญของวันวาเลนไทน์ในระดับปานกลาง รองลงมา ร้อยละ 20.69 ระบุว่า ระดับมาก ร้อยละ 8.90 ระบุว่า ระดับน้อย ร้อยละ 8.38 ระบุว่า ระดับมากที่สุด ร้อยละ 4.54 ระบุว่า ระดับน้อยที่สุด และร้อยละ 4.15 ระบุว่า ไม่ให้ความสำคัญเลย ในส่วนของวิธีการแก้ปัญหา หากมีปัญหาความรักกับแฟน/คู่รัก พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.73 ระบุว่า หันมาคุยกันและปรับความเข้าใจกับแฟน รองลงมา ร้อยละ 37.63 ระบุว่า หาที่ปรึกษาที่เราไว้ใจ ร้อยละ 29.56 ระบุว่า ไปหาเพื่อน ร้อยละ 20.27 ระบุว่า ไปเที่ยว ร้อยละ 17.58 ระบุว่า อยู่เงียบ ๆ คนเดียว ร้อยละ 10.67 ระบุว่า สังสรรค์ ดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 8.96 ระบุว่า ระบายความรู้สึกผ่านทางโซเซียลมีเดีย เช่น Facebook, Line ร้อยละ 6.33 ระบุว่า ไปวัด ร้อยละ 0.06 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ เลิกคบกับแฟน และร้อยละ 9.88 ระบุว่า ไม่เคยมีปัญหา

เมื่อกล่าวถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร (ในวัยเรียน) เป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่ พบว่าวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.06 ระบุว่าไม่เหมาะสม รองลงมา ร้อยละ 16.77 ไม่แน่ใจ/ไม่ระบุ และร้อยละ 6.17 ระบุว่าเหมาะสม ในส่วนประเด็นการมีเพศสัมพันธ์เป็นการแสดงออกถึงความรักหรือไม่ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.54 ระบุว่าไม่ได้เป็นการแสดงออกถึงความรัก รองลงมา ร้อยละ 25.33 ไม่แน่ใจ/ไม่ระบุ และร้อยละ 12.13 ระบุว่า ใช่

สำหรับการตัดสินใจหากแฟนหรือคู่รักขอมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ พบว่าวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.29 ระบุว่า ปฏิเสธ รองลงมาร้อยละ 35.56 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ร้อยละ 9.71 ระบุว่า ยินยอม และร้อยละ 0.44 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ถ้าอยู่ในวัยที่เหมาะสมแล้วจะยินยอมไม่ใช่เรื่องแปลก ให้ดูตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับบรรยากาศและอารมณ์ ทั้งนี้ในจำนวนของตัวอย่างที่ระบุว่าปฏิเสธให้เหตุผลว่ายังไม่ถึงวัยอันควร, ไม่อยากเสียอนาคต,การแสดงความรักมีหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์,ผิดหลักขนบธรรมเนียมประเพณีไทย และรักนวลสงวนตัว ไม่ชิงสุกก่อนห่าม ส่วนตัวอย่างที่ระบุว่ายินยอม ให้เหตุผลว่า ความต้องการทางเพศ, เป็นการแสดงความรัก และเป็นเรื่องปกติ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงวิธีการที่จะแสดงความรักอย่างมีความสุขและเหมาะสมในวันวาเลนไทน์ พบว่า วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.23  ระบุว่า แสดงความรักด้วยการให้ดอกไม้และสิ่งของต่าง ๆ ที่แสดงถึงความรัก  รองลงมา ร้อยละ 33.24  ระบุว่า ไปเที่ยวกับครอบครัว หรือพาคนรักไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว ไปกินข้าว  ร้อยละ 19.26  ระบุว่า มอบความรัก ความจริงใจ ร้อยละ 4.03  ระบุว่า รักและดูแลเอาใจใส่กันภายใต้ความเหมาะสมของวัย อยู่ในกรอบของผู้ใหญ่ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง  ร้อยละ 2.23  ระบุว่า ชวนกันทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์มีประโยชน์ต่อสังคม เช่น ทำบุญบ้านเด็กกำพร้า บริจาคสิ่งของ

เมื่อพิจารณาลักษณะข้อมูลทั่วไปของตัวอย่าง พบตัวอย่างร้อยละ 50.00 เป็นเพศหญิงและเพศชายในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 20.90 อายุ 14 ปี รองลงมาร้อยละ 18.21 อายุ 15 ปี ร้อยละ 17.96 อายุ 18 ปี ร้อยละ 17.54 อายุ 19 ปี ร้อยละ 15.50 อายุ 17 ปี และร้อยละ 9.90 อายุ 16 ปี และเมื่อแบ่งกลุ่มวัยรุ่นไทย พบว่า ร้อยละ 51.00 เป็นวัยรุ่นตอนปลาย (อายุ 17-19 ปี) และร้อยละ 49.00 เป็นวัยรุ่นตอนกลาง (อายุ 14-16 ปี) และตัวอย่างร้อยละ 39.04 ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. รองลงมาร้อยละ 38.35 มัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 14.88 อนุปริญญา/ปวส.และร้อยละ 7.73 ปริญญาตรี.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]