รมว.กต.ยังไม่ยืนยันยิ่งลักษณ์-ทักษิณพำนักอยู่จีน

ทำเนียบรัฐบาล 12 ก.พ.-ดอนเผยยังไม่ได้รับรายงานทางการเรื่องยิ่งลักษณ์-ทักษิณอยู่จีน ขอตรวจสอบก่อน ส่วนการติดตามตัวเป็นหน้าที่หน่วยงานอื่น กต.ดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบแล้วด้วยการแจ้งแต่ละประเทศว่ามีใครหนีคดีบ้าง


นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่ภาพน.ส.ยิ่งลักษณ์และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศยังไม่มีขั้นตอนใด ๆที่ต้องดำเนินการ เนื่องจากมีหน่วยงานอื่นเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการกับผู้ที่มีคดี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะยังไม่ได้รับรายงานเป็นทางการ เป็นเพียงการรายงานภายในเท่านั้น

“ก่อนหน้านี้กระทรวงการต่างประเทศได้บอกกล่าวกับทุกประเทศว่ามีใครที่มีคดีติดตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่แต่ละประเทศจะดำเนินการต่อไป กระทรวงการต่างประเทศไม่มีเครื่องมือหรือบทบาทจะดำเนินการอะไรมากกว่าที่ทำมาแล้ว ส่วนเรื่องสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดน กระทรวงการต่างประเทศรับลูกมาจากผู้บังคับใช้กฎหมาย เราทำหน้าที่เป็นแมสเซนเจอร์เท่านั้น ในอดีตก็ทำแบบนี้ ส่วนแหล่งที่อยู่ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ชัดเจนอยู่ที่ใด ผมอยู่ที่กรุงเทพฯ ขอไปดูรายงานข่าวให้ชัดเจนก่อน  ไม่ใช่ว่ามีข่าวอะไรมา เราต้องมีปฏิกริยากับทุกข่าว ต้องรอความชัดเจนก่อนรายงานผู้บังคับบัญชา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว


ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ถือพาสปอร์ตเล่มอื่นหรือไม่ นายดอน กล่าว่า ทราบจากข่าวแต่ยังไม่เคยเห็นตัวพาสปอร์ตจริง ส่วนจะได้มาโดยวิธีใด แต่เข้าใจได้ว่าในหลายประเทศ หากใครเข้าไปลงทุนหรือติดต่อด้านเศรษฐกิจ เขาก็มักจะให้การรับรองหนังสือเดินทาง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา(12 ก.พ.) มีโอกาสพบกับนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร ซึ่งไม่ได้พูดคุยกรณีที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะขอลี้ภัยอยู่ในสหราชอาณาจักร คุยแต่เรื่องบ้านเมืองทั่วไปและได้ชี้แจงเรื่องการเลือกตั้งที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนหลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ผ่านร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และพ.ร.ป.ว่าด้วยที่มาสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ซึ่งสหราชอาณาจักรทราบและเข้าใจดี นอกจากนี้ได้หารือเรื่องการลงทุนเมกกะโปรเจคที่อังกฤษมีความสนใจจะมาร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เป็นการพูดคุยเพื่อผูกสัมพันธ์กับไทยสำหรับอนาคตที่สหราชอาณาจักรต้องออกจากสหภาพยุโรป(อียู) ส่วนที่อิตาลีก็เข้าใจความจำเป็นที่ไทยต้องเลื่อนการเลือกตั้งและไม่ติดใจเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก