ร้องดีเอสไอ ญาติถูกอุ้มหาย คดีไม่คืบ

ดีเอสไอ 9 ก.พ.- ญาติเหยื่อคดีอุ้มหายร้องดีเอสไอ หลังเหตุเกิด 10 ปีคดีไม่คืบ


นายประเสริฐ เหล่าโสภาพันธ์ เข้ายื่นหนังสือร้องขอความ เป็นธรรมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อให้เร่งรัดการสอบสวนคดีพิเศษ เรื่องที่นายกมล เหล่าโสภาพันธ์ พี่ชายได้หายไปจากพื้นที่ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2551 หลังพบเห็นการทุจริตการเช่าที่ดินของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในพื้นที่ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่มีนายตำรวจในพื้นที่ในขณะนั้นเกลี้ยกล่อมไม่ให้แจ้งความและให้หยุดการตรวจสอบ ทำให้นายกมลแจ้งความดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าวในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนหายตัวไป โดยมี ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยหารกองบริหารคดีพิเศษ  เป็นตัวแทนรับเรื่อง


นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการโอนคดีจากพื้นที่มาเป็นคดีพิเศษในความรับผิดชอบของดีเอสไอตั้งแต่ปี 2552 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จนดีเอสไอสั่งงดการสอบสวนเรื่องนี้ในปี 2556 และตนเองเคยยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการสูงสุดเมื่อเดือนต.ค.2559 อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วพบว่าอาจมีเหตุจูงใจให้มีผู้กระทำความผิดจึงให้ส่งข้อมูลไปยังอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และส่งไปให้ดีเอสไอดำเนินการ แต่ดีเอสไอไม่มีการดำเนินการตามคำสั่งของพนักงานอัยการ 


วันนี้ตนเองได้นำเอกสารข้อสังเกต ข้อมูลเพิ่มเติม และเอกสารเพิ่มเติม มาให้ดีเอสไอไปพิจารณาดำเนินการ  ยืนยันสิ่งที่พี่ชายทำด้วยความสุจริต จึงขอให้ความกรุณาให้แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน

ด้าน ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้นำเสนอต่ออธิบดีต่อไป ส่วนเรื่องงดการสอบสวน ยืนยันไม่ไช่เป็นการจำหน่ายคดี เรื่องนี้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษที่ 70/2552 และดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวมทั้งรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทั้งจากผู้ร้องและพยานหลักฐานอื่นตลอดมา แต่ไม่ทราบตัวผู้กระทำความผิด จึงสรุปสำนวนการสอบสวน เห็นควรงดการสอบสวนส่งพนักงานอัยการ สอดคล้องกับคำสั่งของพนักงานอัยการที่ให้งดการสอบสวน แต่หากพบว่ามีพยานหลักฐานใหม่ พบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำผิดก็สามารถนำเรื่องหลับมาสอบใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งวันนี้ก็จะนำเอกสารหลักฐานที่ได้มาไปตรวจสอบว่ามีข้อมูลใหม่ใดเพิ่มเติมบ้าง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง