พระนคร 8 ก.พ.-กรมศิลป์ฯ ทำหนังสือถึง HSI สหรัฐฯ ขอคืนทับหลังปราสาทหนองหงส์-ปราสาทเขาโล้น’กลับคืนประเทศไทย แต่ขอเอกสารเพิ่มเพื่อยืนยันไทยมีกฎหมายคุ้มครองโบราณวัตถุทั้ง 2 ชิ้น ก่อนจะหายไป
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการอิสระ ซึ่งนับเป็นการประชุมครั้งของปี
ภายหลังการประชุม อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีทับหลังที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่ามีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย คือทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังสำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ หรือHSI สหรัฐอเมริกา โดยทับหลังทั้ง 2ชิ้นไม่ได้จัดแสดงที่ Asian Art Museum เมืองซานฟรานซิสโกแล้ว และอยู่ในสถานะถูกอายัดไว้ ซึ่งทางการสหรัฐฯได้ร้องขอเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลโดยเฉพาะข้อกฎหมาย ที่ยืนยันได้ว่าไทยมีกฎหมายคุ้มครองโบราณวัตถุ ก่อนที่ทับหลังทั้ง 2 ชิ้นนี้จะหายไป รวมทั้งมีการส่งหนังสืออย่างเป็นทางการไปยัง HIS เพื่อยืนยันว่ามีโบราณวัตถุของไทย 14 ชิ้นที่จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์โฮโนลูลู สหรัฐฯ
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้ข้อสรุปติดตามโบราณวัตถุเพิ่มเติม 24 รายการ แบ่งเป็นชิ้นส่วนที่เป็นองค์ประกอบของโบราณสถานของไทย 5 รายการ อาทิเสาติดผนัง ปราสาทพนมรุ้ง จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Norton Simon เมืองพาซาดีน่า ทับหลังสลักภาพรามายณะ ปราสาทพนมรุ้ง,ทับหลังปราสาทพิมายและประติมากรรมรูปม้า ที่จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย เมืองซานฟรานซิสโก รวมทั้งยังมีประติมากรรมกลุ่มประโคนชัย18 รายการ ที่มีหลักฐานว่ามีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศไทย ซึ่งมีความมั่นใจว่าจะติดตามทวงคืนได้
ทั้งนี้ สำนักสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ยังขอให้หน่วยงานไทยตรวจสอบ โบราณวัตถุอีก 69 รายการ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสมัยก่อนประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุบ้านเชียง และตรวจสอบกรณีที่มีชาวอเมริกัน แจ้งความประสงค์จะส่งมอบคืนโบราณวัตถุของไทย13 รายการ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะติดตามได้คืนเช่นกัน
อธิบดีกรมศิลปากร ยังกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าการดำเนินการติดตามทวงคืนของไทยค่อนข้างล่าช้า ยืนยันว่าทำตามขั้นตอนและการติดตามมีความคืบหน้ามากแต่ที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดเล็กน้อยเรื่องการทำเอกสาร ทำให้ล่าช้าไป และขณะนี้ก็ส่งหนังสือทางการตามที่สหรัฐร้องขอไปตามขั้นตอนแล้ว เชื่อว่าไทยจะได้วัตถุโบราณที่มีหลักฐานชัดเจนกลับคืนมาแน่นอน .-สำนักข่าวไทย