เอ็กซิมแบงก์ตั้งเป้าสินเชื่อขยายตัวร้อยละ 9

กรุงเทพฯ  8 ก.พ. – เอ็กซ์ซิมแบงก์ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้ขยายตัวร้อยละ 9 มุ่งช่วยเหลือเอสเอ็มอีส่งออกใน CLMV เตือนเก็งกำไรเงินบาทเสี่ยงขาดทุน


นายพิศิษฐ์ เสรีวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์ )  กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อปีนี้โตร้อยละ 9 สินเชื่อคงค้างรวมเป็น 100,000 ล้านบาท จาก 91,886 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8,114 ล้านบาท สินเชื่อใหม่ 47,000 ล้านบาท กำไรสุทธิโตร้อยละ 4-5 โดยวางเป้าหมายนำผู้ประกอบการไทยรุกขยายการค้าการลงทุนในตลาด CLMV ต่อเนื่องจากปี 2558 โดยเฉพาะโครงการด้านพลังงานสาธารณูปโภค การบริการและการก่อสร้าง โดยมียอดสินเชื่อคงค้างโครงการลงทุนใน CLMV ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 27,895 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของพอร์ตสินเชื่อรวม และมีแผนจะเปิดสำนักงานตัวแทนใน สปป.ลาว และกัมพูชา พร้อมสนับสนุนการค้าการลงทุนการส่งออกไปยังตลาดใหม่ เช่น เอเชียใต้ และอินเดีย หลังจากตลาดหลักเริ่มแผ่วลง 

นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอี โดยได้พัฒนาบริการใหม่ สินเชื่อส่งออกสุขใจ เป็นบริการสินเชื่อหมุนเวียน พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า วงเงินสูงสุด 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษร้อยละ 4.50 ต่อปี ในปีแรกสำหรับนิติบุคคลบัญชีเดียวตามนโยบายของรัฐบาล  ส่วนดอกเบี้ยปีที่ 2 ดอกเบี้ย Prime Rate – ร้อยละ 1 ซึ่งดอกเบี้ย Prime Rate อยู่ที่ร้อยละ 6.25 อนุมัติภายใน 7 วัน ไม่ต้องมีหลักประกันใช้เพียงบุคคลค้ำประกันเท่านั้น ระยะเวลาการกู้ 3 ปี เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ไม่มีหลักประกันสามารถเริ่มต้นส่งออกได้ โดยมีเป้าหมายอนุมัติวงเงินแก่ผู้ส่งออกเอสเอ็มอีรายใหม่ 750 รายในปีนี้ พร้อมดูแลสินเชื่อด้อยคุณภาพ ( NPL) อยู่ที่ร้อยละ 3.57 


ขณะที่ยอดรับประกันการส่งออกและความเสี่ยงลงทุนปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 85,000 ล้านบาท จาก 65,903 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 30 เนื่องจากผู้ประกอบการไทยนิยมประกันการส่งออก เพราะเกรงกระแสเงินสดสะดุด และการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองในประเทศที่ไปลงทุน

นายพิศิษฐ์ ยังเตือนผู้ประกอบการอย่าเก็งกำไรค่าเงินบาท เพราะเสี่ยงที่จะขาดทุน และอาจกระทบกระแสเงินสดสะดุดได้ เนื่องจากค่าเงินบาทมีความผันผวนต่อเนื่องตามกระแสการไหลเข้า-ออกของเงินทุนเคลื่อนย้าย ดังนั้น เอสเอ็มอีเมื่อขายสินค้าไปแล้ว ควรทำ Forward ล่วงหน้า เพื่อให้ได้รายรับที่แน่นอน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง