ร้อง”อัยการ”เร่งรัดสั่งคดีและดำเนินคดีกับผู้สั่งการสลายชุมนุมปี 53

กรุงเทพฯ 5 ก.พ.- ญาติผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมปี 53 ร้องอัยการเร่งรัดให้สั่งคดีเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้สั่งการสลายชุมนุม ทั้งที่ศาลไต่สวนชี้สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากถูกกระสุนของเจ้าหน้าที่ แต่คดีก็ยังไม่คืบ


ญาติผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 พร้อมทนายความเข้ายื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อตัวแทนสำนักงานอัยการสูงสุดให้เร่งรัดการพิจารณาสั่งคดีสลายการชุมนุมเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ รวมทั้งทำความเห็นส่งไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้เร่งรัดดำเนินการสอบสวนระบุตัวเจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิดโดยเร็ว

นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความ ระบุว่า ข้อเท็จจริงในเหตุการณ์วันนั้น มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธสงครามและกระสุนจริง ในการเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 บริเวณถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนดินสอ สี่แยกครอบครัว ต่อเนื่องถึงช่วงเดือนพฤษภาคม บริเวณซอยรางน้ำ สี่แยกบ่อนไก่ สี่แยกราชประสงค์ จนเป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตหลายราย ล่าสุดทราบว่าสำนวนการสอบสวนยังกระจัดกระจายในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นพนักงานอัยการ โดยไม่มีการแจ้งความคืบหน้าให้ญาติผู้เสียชีวิตทราบ ซึ่งถึงจะมีหลายศพที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ว่ามาจากฝ่ายใด แต่มีกว่า 20 ศพ ที่ศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าสาเหตุการตายเกิดจากกระสุนของเจ้าหน้าที่ จึงควรมีการดำเนินคดีกับทหารผู้ควบคุมการปฏิบัติในพื้นที่ทุกระดับชั้น


ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า พร้อมตรวจสอบสำนวนคดีว่าขณะนี้มีความคืบหน้าไปอย่างไรและอยู่ในขั้นตอนใด เพื่อเร่งรัดเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ก่อนจะแจ้งกลับไปยังผู้ร้อง ส่วนสำนวนคดีที่ยังไม่ถูกส่งมาให้สำนักอัยการไม่มีสิทธิก้าวล่วงได้

สำหรับคดีดังกล่าวนี้เริ่มแรกได้มีการกล่าวโทษนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น แต่ภายหลังศาลฎีกาวินิจฉัย ว่าอำนาจการพิจารณาสั่งฟ้องคดีอยู่ที่ ป.ป.ช. .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก