นายกฯเตรียมลงพื้นที่จันทบุรี-ตราด 5-6 ก.พ.นี้

กรุงเทพฯ 4 ก.พ.- นายกรัฐมนตรี และครม.เตรียมพบชาวจันทบุรี-ตราด 5-6 ก.พ.นี้ ตั้งเป้าผลักดันไทยเป็นมหาอำนาจการค้าผลไม้โลก พร้อมเสริมจุดแข็ง แก้ไขจุดอ่อน ยกระดับการพัฒนาภาคตะวันออก 


พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นชาติมหาอำนาจด้านการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลก โดยจะใช้โอกาสการลงพื้นที่พบปะประชาชนและประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ที่ จ.จันทบุรีและตราด ในวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านมาตรฐานคุณภาพผลไม้ไทยระหว่างกระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยบูรพา และบันทึกข้อตกลงการเชื่อมโยงตลาดผลไม้ แหล่งผลิต และตลาดรองรับสำคัญ ระหว่างหอการค้าจังหวัดต่างๆ กับหอการค้านำเข้าผลไม้ของจีนและหอการค้า จ.ไพลิน ของกัมพูชา


“ผลไม้ไทยมีความหลากหลาย มีรสชาติโดดเด่น เป็นที่ต้องการของตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และลำไย โดย จ.จันทบุรี เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านผลไม้และมีเป้าหมายเป็นมหานครผลไม้โลก แต่ยังคงมีข้อจำกัดด้านการผลิตและการตลาด ซึ่งรัฐบาลจะได้รับฟังปัญหาและร่วมกันแก้ไข ภายใต้ยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ครบวงจร คือ การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของผลไม้ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พัฒนาช่องทางการจำหน่ายและกระจายผลไม้ไทย พัฒนาสมรรถนะของผู้ประกอบการ และประชาสัมพันธ์ผลไม้ให้เป็นที่ต้องการของตลาด” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว


พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับการลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ ครม.ครั้งนี้ นอกจากต้องการส่งเสริมให้เป็นเมืองผลไม้ของโลกแล้ว ยังจะผลักดันอุตสาหกรรมอัญมณี ติดตามการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคม การส่งเสริมการท่องเที่ยว และเกษตรอุตสาหกรรม ส่วน จ.ตราด เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อย่างยั่งยืน การอนุรักษ์ป่าชายเลน การจัดการน้ำเสีย และการพัฒนาสถาบันการเงินชุมชน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ทุกครั้งที่ลงพื้นที่และประชุม ครม.นอกสถานที่ จะมีการพิจารณาแนวทางการพัฒนาภาคเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคนั้นๆ โดยในครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ตะวันออก ซึ่งรัฐบาลจะรับฟังข้อเสนอและหารือร่วมกับภาคเอกชน ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายถนน รถไฟทางคู่ รถไฟโดยสารด่วนพิเศษ แก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคและไฟฟ้าดับ พัฒนาด่านชายแดน ท่าเทียบเรือ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ฯลฯ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในทุกด้าน ซึ่งจะสอดรับกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาลอีกด้วย.- สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย