สมุทรสงคราม 4 ก.พ. – หนุ่มราชบุรี เพิ่งออกจากคุก ก่อเหตุย่องเข้าบ้านชาวแม่กลอง อาบน้ำเปลี่ยนชุด นอนรอในห้องลูกสาว หวังข่มขืน แต่โชคดีเหยื่อไปทำธุระนอกบ้าน จึงเปลี่ยนเป้าหมายจี้เจ้าของบ้าน เพื่อลักทรัพย์แทน
ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม คุมตัวนายอัครพล ฤทธิเดช อายุ 26 ปี ชาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ไปชี้จุดเกิดเหตุ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังบุกจี้ชิงทรัพย์ นายบัวลา ขันแข็ง อายุ 51 ปี ซึ่งพิการทางมือ ในบ้านเลขที่ 9809 ชุมชนวัดป้อมแก้ว เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ได้ทรัพย์สินหลายรายการ ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปและพระเครื่อง เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 3 ก.พ.2561
ผู้เสียหาย เล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะนอนอยู่ในมุ้งอยู่ใต้ถุนบ้าน จู่ๆ คนร้ายก็มุดมุ้งเข้ามาและใช้ปืนจี้ที่ลำคอเพื่อจี้ชิงทรัพย์ก่อนจะขึ้นไปบนบ้านเพื่อนำทรัพย์สินก่อนหลบหนีไป
พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรสงคราม บอกว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2553 นายอัครพล เคยก่อเหตุลักทรัพย์ โดยแต่งเครื่องแบบทหารตำรวจ มีปืนหรือใช้ยานพาหนะเพื่อใช้ในการหลบหนี คดีเสพยาเสพติดให้โทษ เมื่อปี 2554 ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน ปี 2555 ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เพิ่งออกจากเรือนจำกลางราชบุรีมาเมื่อไม่นานมานี้ และล่าสุดปี 2560 ยังถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ
และก่อนมาก่อเหตุจี้ลักทรัพย์ครั้งนี้ ได้มาวนเวียนมาแอบดูลูกสาวของผู้เสียหาย ซึ่งมีหน้าตาดี จึงแน่ใจว่า ลูกสาวมักอยู่คนเดียวตามลำพัง กระทั่งช่วงบ่ายวันเกิดเหตุ นายอัครพล จึงล่องน้ำในคลองลำประโดงหน้าบ้าน แอบย่องเข้าไปในบ้าน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะขึ้นไปนอนแอบรอในห้องนอนลูกสาว แต่ถือเป็นความโชคดีที่ลูกของนายบัวลา ออกไปทำธุระ ต่อมาในช่วงมืดนายบัวลา กลับเข้าบ้าน และนอนพักในมุ้งใต้ถุนบ้าน นายอัครพล จึงลงมาใช้ปืนจี้ที่ลำคอของนายบัวลาและชิงทรัพย์สินไป จากนั้นล่องคลองลำประโดงไปขึ้นอีกบ้าน เพื่อขโมยทรัพย์สินอีก ก่อนจะหลบหนีไป กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้
เบื้องต้น นายอัครพล ให้การรับสารภาพ ตำรวจจึงตั้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธปืน นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ ตำรวจยังฝากเตือนประชาชนให้ปิดประตูบ้านและหน้าต่างให้มิดชิด รวมทั้งฝากบ้านไว้กับเพื่อนบ้าน และไม่ควรทิ้งบุตรหลานไว้ในบ้านตามลำพัง หากพบบุคคลต้องสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที. -สำนักข่าวไทย