กรุงเทพฯ 3
ก.พ. -สถานการณ์น้ำท่วมกุยบุรี น้ำล้นอ่างฯกุยบุรี และอ่างฯห้วยวังเต็น
มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดเข้าสู่สถานการณ์ปกติได้อีก 2 วัน หากฝนไม่ตกเพิ่ม
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันตั้งแต่วานนี้ (2 ก.พ. 61) จนถึงเช้าของวันที่ 3 ก.พ. 61 ในพื้นที่อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
วัดปริมาณฝนสะสมที่อ่างเก็บน้ำยางชุม และอ่างเก็บน้ำห้วยวังเต็น ได้มากถึง 238 และ 188.5 มิลลิเมตร ตามลำดับ
ส่งผลให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง จนมีปริมาณน้ำเต็มอ่างฯ และไหลล้นทางระบายน้ำล้น (Spill Way) ลงสู่พื้นที่ท้ายอ่างฯ
ก่อนจะไหลลงไปสมทบกับน้ำป่าที่ไหลหลากลงสู่คลองกุยบุรี
ทำให้ปริมาณน้ำในคลองกุยบุรีเพิ่มสูงขึ้น แต่น้ำยังไม่เอ่อล้นตลิ่ง
มีพื้นที่น้ำท่วมขังที่เกิดจากฝนที่ตกหนัก
ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง
ทำให้การระบายน้ำลงสู่ทะเลไม่สะดวกเท่าที่ควร บริเวณชุมชนกุยบุรี ม. 4 – 7 และม. 9 ต.กุยบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่ใกล้แม่น้ำกุยบุรี
ระดับน้ำขังประมาณ 30
– 50 เซนติเมตร แนวโน้มระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณถนนเพชรเกษม ที่กม. 267+500 ยาว 200 เมตร ระดับได้เริ่มลดลงแล้ว รถเล็กสามารถสัญจรได้ตามปกติ
ปัจจุบัน (3 ก.พ. 61) สภาพอากาศทั่วไปฝนได้หยุดตกแล้ว
ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับอ่างเก็บน้ำกุยบุรี ขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่างฯประมาณ 46 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 111 ของความจุอ่างฯ ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยวังเต็น
มีปริมาณน้ำในอ่างฯประมาณ 12 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 104 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯทั้ง 2 แห่งมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ อ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง มีปริมาณน้ำในอ่างฯร้อยละ 86 และ 85 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ ซึ่งโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์
ได้ประสานรายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง ไปยังนายอำเภอกุยบุรี และหน่วยงานท้องถิ่นให้รับทราบสถานการณ์เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม
ให้ขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง
พร้อมกันนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
เพื่อให้น้ำระบายลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติม
คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 วัน–สำนักข่าวไทย