3 ก.พ.- กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย เตรียมขึ้นทะเบียน หมอแสง เป็นหมอพื้นบ้าน คาดจะขึ้นทะเบียนเป็นหมอพื้นบ้านได้ ในเดือนมีนาคม
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า หลังจากมีประชาชนให้ความสนใจเดินทางไปรักษาโรคมะเร็งกับ นายแสง แหเลิศตระกูล หรือ หมอแสง จำนวนมาก เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับคนไข้ และเปิดกว้างในการรักษา โดยเห็นว่า การรักษามะเร็งโรคมะเร็งของหมอแสง นั้น เข้าข่ายการรักษาในทางตำราแพทย์แผนไทย จึงเตรียมที่จะขึ้นทะเบียนเป็นหมอพื้นบ้าน แต่ทั้งนี้ยังติดเรื่องของเอกสารหลักฐาน สำคัญเพิ่มเติม เพื่อการออกใบรับรองให้นายแสง เป็น หมอพื้นบ้าน ซึ่งหลักเกณฑ์ของการเป็นหมอพื้นบ้าน นอกจากการรักษาประจำถิ่น ในพื้นที่ ตามภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย เน้นการรักษาเฉพาะโรคเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า นายแสง จะสามารถเปิดคลินิก รักษาได้ เพราะใช้ กฎหมายการดูแลคนละฉบับกัน
ส่วน การเตรียมขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้านให้กับนายแสง คาดว่ากระบวนการคงจะแล้วเสร็จ ในช่วงเดือนมีนาคม และคงจะใกล้กับช่วงเวลา ที่ผลการตรวจสรรพคุณทางยา ของยา รักษามะเร็งที่นายแสงคิดค้นคาดว่าจะทราบผลในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ทั้งนี้หวังว่า จะเป็นการเปิดกว้างทางการรักษา เพราะสรรพคุณทางยาของหมอแสง ก็ดีถึงร้อยละ 80 แต่ไม่ได้หมายความว่า การรักษามะเร็งแบบพื้นบ้านจะดีกว่าแผนปัจจุบัน จึงต้องมีการทำความเข้าใจและเปิดใจกว้าง และต้องแจ้งหลักเกณฑ์การรักษาให้กับนายแสงทราบ และประชาชนต้องทราบ ร่วมกันเพื่อประโยชน์ในการรักษา
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า การรักษามะเร็งในระยะแรก 1 ถึง 2 การรักษาด้วยวิธีแผนปัจจุบัน สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดี และเห็นผลอย่างชัดเจน แต่เมื่อเข้าสู่ ระยะ 3-4 ก็ต้องยอมรับว่า คนไข้บางรายสิ้นหวัง เครียด จึงจำเป็นต้องมีทางเลือกในการรักษา นอกจากรักษาทางร่างกาย แล้วยังต้อง เยียวยาจิตใจควบคู่ ไปด้วย โดยยารักษามะเร็งตำรับพื้นบ้าน ต้องยอมรับว่า แตกต่างจากยาแผนปัจจุบัน เพราะมี หลักเกณฑ์ ทั้ง ยาล้อม ไม่ให้มะเร็งลุกลาม ,ยารัก หมายถึง รักษา ,ยาบำรุง หรือการบำรุงร่างกาย แลธาตุ , และยารุก คือ ยาที่จะเข้าไปทำลายเชื้อ นี่เป็นหลักการรักษาของแผนไทย ต่างจากแผนปัจจุบัน ที่มุ่งทำลายเซลล์มะเร็ง.-สำนักข่าวไทย