ธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางพารา

กรุงเทพฯ 2 ก.พ. – ธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางพารา 15,000
ล้านบาท สนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรรวบรวมและแปรรูปยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่า


นายอภิรมย์  สุขประเสริฐ  ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารา 2 โครงการ
ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่สถาบันเกษตรกรรวบรวมยาง
โดยมีเป้าหมายการจ่ายเงินกู้วงเงินวงเงิน 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาการดำเนินโครงการ
ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่  31 มีนาคม 2563
อัตราดอกเบี้ย
MLR-ร้อยละ 1 ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 4 รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยแทนสถาบันเกษตรกรร้อยละ
3 สถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยเพียงร้อยละ  1 กำหนดชำระคืนภายใน 12 เดือน  ซึ่งปัจจุบัน ธ.ก.ส.อนุมัติเงินกู้ไปแล้ว 6,200
ล้านบาท

โครงการสนับสนุนสินเชื่อให้สถาบันเกษตรกร
กู้เพื่อเป็นค่าลงทุนและเงินทุนหมุนเวียนในการแปรรูปยางพารา เพื่อเพิ่มมูลค่าเป้าหมายการจ่ายเงินกู้
วงเงิน 5,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม
2567  โดยเงินกู้ค่าลงทุนคิดดอกเบี้ย
MLR- ร้อยละ 1.5
ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 3.5 
รัฐบาลช่วยรับภาระดอกเบี้ยแทนสถาบันเกษตรกรร้อยละ 3 โดยกองทุนพัฒนาสหกรณ์และรัฐบาลจะช่วยรับภาระดอกเบี้ยอีกร้อยละ
0.49 สถาบันเกษตรกรจะรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 เท่านั้น  กำหนดชำระคืนเป็นรายงวดภายในเดือนสิงหาคม
2567  ซึ่งปัจจุบัน ธ.ก.ส.อนุมัติเงินกู้แล้ว
1,800 ล้านบาท


นอกจากนี้ ในส่วนผู้ประกอบกิจการยางพารา รัฐบาลได้อนุมัติโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง
(ยางแห้ง) วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการไปดูดซับยางพาราออกจากระบบ  นำมาเก็บในสตอกของผู้ประกอบการลักษณะหมุนเวียน
โดยรัฐบาลจะรับภาระดอกเบี้ยแทนผู้กู้ร้อยละ 3 ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขในโครงการที่การยางแห่งประเทศไทย
(กยท.) กำหนด ผู้ประกอบกิจการยางพาราที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการได้ที่
กยท.

“มาตรการดังกล่าวมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านราคาให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา  รวมทั้งสนับสนุนกระบวนการสหกรณ์ให้สถาบันเกษตรกรเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนกลไกตลาดให้ทำงานอย่างเต็มที่
รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาวให้เกิดความยั่งยืนต่อไปด้วย
นายอภิรมย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง