กต.2 ก.พ.-กต.จับมือ สธ.และ สปสช.จัดประชุมความสำเร็จขับเคลื่อนหลักประกันสุขภาพไทยให้ผู้แทนนักการทูตแต่ละประเทศ หลังองค์การอนามัยโลกยกไทยเป็นต้นแบบหลักประกันสุขภาพที่เป็นจริงได้ เพื่อเป็นพื้นที่เรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จกับประเทศอื่น เพื่อให้แต่ละประเทศบรรลุการมีหลักประกันสุขภาพที่เป็นจริง
นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การจัดงานวันนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย และรักษาระดับความมุ่งมั่นสู่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทยที่มีความสำคัญต่อสังคมและโลกในยุคโลกาภิวัตน์ และเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ช่วยลดภาระหนี้สินครัวเรือน ทำให้ประชาชนมีความมั่นคงด้านสุขภาพ ประชาชนมีศักดิ์ศรี
อย่างไรก็ตามแม้ว่าไทยจะสามารถทำระบบหลักประกันสุขภาพได้สำเร็จ แต่ก็ยังมีความท้าทายที่เราต้องจัดการให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากรที่เพียงพอ การยืนยันเรื่องของความถ้วนหน้า ความยั่งยืนของระบบ ซึ่งพวกเราต้องทบทวนสถานการณ์ปัจจุบัน แบ่งปันประสบการณ์และมุมมองเพื่อการมองไปในอนาคตร่วมกัน
นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Dr.Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกผลักดันเรื่องของ health for all หรือสุขภาพเพื่อทุกคน ปัจจุบันครึ่งหนึ่งของประชากรโลกยังเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพ องค์การอนามัยโลกจึงได้ท้าทายให้ทุกประเทศเร่งกระบวนการเพื่อทำความฝันการบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อประชาชนของแต่ละประเทศให้เป็นจริง ซึ่งก็เห็นความก้าวหน้าของแต่ละประเทศมาเป็นลำดับ เช่น ประเทศเคนยา มาดากัสการ์ อินเดีย และเพื่อช่วยให้ทุกประเทศบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า องค์การอนามัยโลกมองไปที่ประเทศที่ทำเรื่องนี้ได้ดี และสามารถถอดบทเรียนเพื่อให้แต่ละประเทศนำไปปรับใช้ได้ ซึ่งประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องนี้ //ผลสำเร็จของไทยเป็นสักขีพยานว่า ประเทศทุกระดับรายได้สามารถทำหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ประชาชนได้ ไม่ต้องเป็นประเทศร่ำรวย ประสบการณ์ตรงนี้ของไทยถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่า ความเชี่ยวชาญที่ไทยมีจะเป็นประโยชน์ในการถ่ายทอดบทเรียนให้กับประเทศอื่นๆ
นายกีบรีเยซุส กล่าวว่า รู้สึกชื่นใจมากที่เห็น 2 สิ่งนี้ในไทยที่รัฐบาลและชุมชนร่วมกันทำงานเพื่อให้ระบบนี้มีประสิทธิภาพ ประสบการณ์ของไทยบอกว่าการบรรลุหลักประกันสุขภาพไม่ง่าย ต้องใช้เวลา ต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลา และหลักของความเสมอหน้าเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ แม้กระนั้นก็ยังมีคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เช่น กลุ่มแรงงานข้ามชาติประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งองค์การอนามัยโลกยินดีที่จะทำงานกับไทยในด้านนี้เพื่อให้แรงงานข้ามชาติเข้าถึงบริการสุขภาพ
“องค์การอนามัยโลกยินดีที่ไทยพร้อมเป็นตัวอย่างการบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ประเทศอื่น องค์การอนามัยโลกพร้อมหนุนเสริมในด้านความรู้ เราพึ่งพาให้ไทยมีบทบาทนำในเรื่องเป็นต้นแบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพราะเป็นประจักษ์ชัดเจนว่า หลักประกันสุขภาพไม่ใช่ความฝัน ทุกประเทศทำให้เป็นจริงได้ ตัวอย่างของไทยบอกว่าหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นจริงได้” ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าว
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกผลักดันให้ทุกประเทศบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และถือว่าไทยเป็นตัวอย่างที่สำคัญที่เป็นต้นแบบให้แต่ละประเทศได้ กว่า 15 ปีที่ไทยเดินหน้าหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้น สามารถดูแลประชาชนได้ดี ประชาชนไทยกว่าร้อยละ 99ได้รับการคุ้มครองหลักประกันสุขภาพ รอดพ้นจากการล้มละลายทางการเงิน การมีส่วนร่วมของชุมชน และการมีระบบสุขภาพปฐมภูมิที่เข้มแข็ง
นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า เราพบว่าหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ดี ประชากรสุขภาพดี ส่งผลต่อการจ้างงาน มีการคาดการณ์ว่าการลงทุนด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 20% และระดับการเข้าถึงสุขภาพของไทยกำลังปรับปรุงขึ้นไปให้เท่าเทียมกับกลุ่มประเทศ OECD แต่แน่นอนว่าระบบนี้ก็ยังมีความท้าทายใน 3 เรื่องคือ 1.เทคโนโลยีการรักษาใหม่และยาใหม่ที่มีราคาสูง 2.การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และการเผชิญหน้ากับกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือโรค NCDs ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และ 3.การสร้างระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ก้าวสู่ SAFE นั่นคือต้องเป็นระบบที่ยั่งยืน มีความเพียงพอ มีความเป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ
“ด้วยความเป็นผู้นำของกระทรวงการต่างประเทศในเวทีนานาชาติ ทำให้เราเตรียมพร้อมร่วมกับประเทศต่างและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ในการเป็นศูนย์เรียนรู้หลักประกันสุขภาพที่เป็นจริงได้ของโลกต่อไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว.-สำนักข่าวไทย