รัฐตั้งเป้ายอดลงทุนอีอีซีปีนี้ 300,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – รัฐบาลตั้งเป้ายอดเงินลงทุนอีอีซีปีนี้ 300,000 ล้านบาท พร้อมไฟเขียวเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง 19 แห่ง มีพื้นที่ใหม่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอีก 26,200 ไร่ รองรับการลงทุนได้กว่า 1.1 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปีข้างหน้า


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กนศ.) ครั้งที่ 4 (1/2561) ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการหลายด้านที่เสนอโดยสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) โดยในส่วนของร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ… คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. เสร็จแล้วทุกมาตรา เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2561 และคาดว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะพิจารณาเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561

ด้านการลงทุนอุตสาหรรมเป้าหมายในพื้นที่ระเบียงเศรฐษกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พบว่ามียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซีปี 2560 รวมเป็นเงินลงทุน 296,890 ล้านบาท โดยปี 2561 มีเป้าหมายการลงทุน 300,000 ล้านบาท เทียบกับ 199,327 ล้านบาทในปี 2559 โดยร้อยละ 84 เป็นการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีสูง คิดเป็นร้อยละ 84 ของอุตสาหกรรมทั้งหมด นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบว่าคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีเพิ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป ได้แก่ เขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ เช่น เมืองการบินภาคตะวันออกได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มในการยกเว้นภาษีนิติบุคคลอีก 2 ปี รวมแล้ว 8 ปี และลดหย่อนภาษีนิติบุคคลร้อยละ 50 เพิ่มอีก 5 ปี โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงานมากกว่าร้อยละ 10 ของพนักงานทั้งหมด หรือมากกว่า 50 คน เขตส่งเสริมเพื่อกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคลร้อยละ 50 เพิ่มอีก 5 ปี จากเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงานมากกว่าร้อยละ  10 ของพนักงานทั้งหมด หรือมากกว่า 50 คน เขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม หรือเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคลร้อยละ  50 เพิ่มอีก 3 ปี จากเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงานมากกว่าร้อยละ 5 ของพนักงานทั้งหมด หรือมากกว่า 25 คน


การพัฒนาบุคลากรในอีอีซี ตามมติ กนศ.ครั้งที่ 3/2560 สืบเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายฯ อนุมัติร่างแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาบุคลากรฯ เมื่อการประชุมครั้งก่อน  สกรศ.ได้นำแผนไปรับฟังความคิดเห็นที่ฉะเชิงเทราและชลบุรี สรุปได้ว่าประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนาด้านพัฒนาบุคลากรที่ต้องสร้างเยาวชนให้มีความรู้ตรงความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นหลักและขณะนี้มีการทำงานร่วมกันในทิศทางเดียวกันของหน่วยงานและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องทุกระดับ 

นอกจากนี้ สำนักงบประมาณและ สกรศ.ร่วมกันปรับปรุงรายละเอียดโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนตามวัตถุประสงค์การพัฒนาบุคลากรในอีอีซี โดยปรับลดเหลือ 15 โครงการ วงเงิน 589 ล้านบาท จากที่เคยได้รับความเห็นชอบให้เสนอขอรับจัดสรรงบกลางไว้ 861 ล้านบาท

ด้านการประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกาศเพิ่มอีก 19 แห่ง โดยคณะกรรมการฯ เห็นชอบการประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง 19 แห่ง ซึ่งมีหลักเกณฑ์การจัดตั้งเขตส่งเสริมครบถ้วนแล้ว ทำให้มีพื้นที่ใหม่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอีก 26,200 ไร่ และประมาณว่าจะรองรับการลงทุนได้กว่า 1.1 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปีข้างหน้า ประกอบด้วย ระยอง  6 แห่ง ชลบุรี 12 แห่ง และฉะเชิงเทรา 1 แห่ง  นิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ผ่านการศึกษาสิ่งแวดล้อมและเปิดดำเนินการอยู่แล้ว  แต่ยังมีที่ดินที่เหลืออยู่ ดังนั้น การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในอีอีซี จึงไม่จำเป็นต้องนำที่ดินอื่น ๆ นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมมาประกอบอุตสาหกรรม


สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ร่วมกับ สกรศ.เสนอกำหนดคุณสมบัติของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอากาศยานที่เป็นนิติบุคคลที่มีผู้มีสัญชาติไทยน้อยกว่าร้อยละ 51 ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการและสนับสนุนการสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมอากาศยานให้เกิดขึ้นในอีอีซี โดยต้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย มีสำนักงานตั้งอยู่ในราชอาณาจักรไทย มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตส่งเสริมของพื้นที่อีอีซี มีวัตถุประสงค์เพื่อการผลิตอากาศยาน หรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน หรือหน่วยซ่อมอากาศยาน ได้รับหรือมีสิทธิในใบรับรองแบบอากาศยาน หรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานที่ประสงค์จะผลิต (เฉพาะกรณีที่จะผลิต) มีขีดความสามารถที่จะผลิตอากาศยาน ส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานตามใบรับรองแบบหรือมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงอากาศยาน  มีการควบคุมคุณภาพการผลิต หรือการซ่อม  เงื่อนไขประกอบการพิจารณา โดยจะมีการพิจารณาเงื่อนไขในการพิจารณา 2 เรื่อง ระดับเทคโนโลยีสำคัญที่ต้องการในการพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยานของไทย และแผนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคลากรไทย

ด้านแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่ประชุมเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานที่จัดทำโดยคณะอนุกรรมการโครงสร้างพื้นฐานฯ (ผู้อำนวยการ สนข. เป็นประธาน) โดยให้เพิ่มเรื่องดิจิทัลและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แผนปฏิบัติการฯ นี้มีสาระสำคัญ 2 ประการ  คือ มุ่งพัฒนาโลจิสติกส์แบบไร้รอยต่อ เชื่อมโยงทั้งทางบก น้ำ อากาศ ในพื้นที่อีอีซี และพื้นที่ใกล้เคียง ให้อีอีซี เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่น่าอยู่อาศัยแห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย ให้อีอีซี  เชื่อมต่อกับกรุงเทพได้อย่างสมบูรณ์  รวมกันเป็นมหานครขนาดใหญ่ ลดความอัดแอของกรุงเทพฯในอนาคต  โดยประชาชนสามารถเดินทางระหว่างกรุงเทพและอีอีซี เข้าสู่กรุงเทพฯ ใน 1 ชั่วโมงด้วยรถไฟความเร็วสูง และมีสนามบินอู่ตะเภาเสมือนเป็นสนามบินหลักแห่งที่ 3 ของกรุงเทพช่วยผ่อนคลายความคับคั่งของสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิและเพื่อให้เกิดผลในการปฏิบัติ แผนนี้ประกอบด้วยโครงการ ระยะสั้น-กลาง-ยาว 168 โครงการ ในกรอบวงเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท และประมาณว่าการลงทุนจะเป็นเงินงบประมาณร้อยละ 30 งบลงทุนรัฐวิสาหกิจร้อยละ 10 และรัฐร่วมทุนเอกชน (PPP) ร้อยละ 60

สำหรับแผนปฏิบัติการการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการฯ ที่จัดทำโดยคณะอนุกรรมการการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวฯ ที่มีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธาน  แผนปฏิบัติการนี้มีสาระสำคัญ 2 ประการ คือ มุ่งยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวในอีอีซี สู่การท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยั่งยืน รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  กลุ่มครอบครัวและนักธุรกิจเพิ่มขึ้น ประมาณว่าใน 4 ปีเมื่อระบบคมนาคมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสมบูรณ์ขึ้น จะมีนักท่องเที่ยวในอีอีซีเพิ่มขึ้นเป็น 47 ล้านคนจาก 30 ล้านคนในปัจจุบัน ประชาชนได้รายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 500,000 ล้านบาท จาก 300,000 ล้านบาทในปัจจุบัน และเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติแผนฯ นี้ จึงได้เสนอโครงการภายใต้แผนฯ 53 โครงการ ในกรอบวงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท เป็นเงินงบประมาณร้อยละ 25  งบลงทุนรัฐวิสาหกิจร้อยละ 1 และรัฐร่วมทุนเอกชนร้อยละ 74.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]