กาญจนบุรี 23 ม.ค.-ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยืนยันไม่เคยเห็นภาพกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพขณะมีบุคคลก้มเก็บลอตเตอรี่ตามที่ “ครูปรีชา” กล่าวอ้าง ขณะที่หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนและสอบสวนรอผลตรวจสอบตรวจวัตถุพยานอีก 3 ชิ้น ก่อนสรุปสำนวนส่งให้อัยการ
พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนและสอบสวนคดีสลากกินแบ่งรางวัลที่หนึ่ง 30 ล้านบาท ที่มี ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ เป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัล ก่อนนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี อ.เมืองกาญจนบุรี จะอ้างเป็นผู้ถูกรางวัลแต่ทำสลากหาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานที่ส่งไปตรวจ นำไปประกอบกับคำให้การของพยาน ซึ่งเป็นเรื่องของข้อมูลในสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจส่งผลเสียต่อรูปคดี
เบื้องต้นสอบพยานไปแล้วประมาณ 37 ปาก เป็นพยานเกี่ยวข้อง ซึ่งมีหลากหลาย และพยานแวดล้อมอื่น แต่ไม่ใช่พยานที่ระบุว่าเห็นบุคคลที่เก็บลอตเตอรี่ได้ตามที่มีกระแสข่าว มีพยานเห็นเหตุการณ์ 30 คน ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ และน่าจะเป็นความเข้าใจผิดมากกว่า สำหรับวัตถุพยานที่พนักงานสอบสวนส่งไปตรวจพิสูจน์มีจำนวน 4 ชิ้น คือ ลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ออกมาแล้ว ยังเหลือผลการตรวจวัตถุพยานอีก 3 ชิ้น ขณะนี้ยังไม่ทราบผล
ขณะที่ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พบเพียงลายนิ้วมือ ร.ต.ท.จรูญ เนื่องจากเป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงิน และพบ DNA ของหลายคน แต่มีปริมาณน้อยมาก ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ แต่มีวัตถุพยานบางอย่างที่อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ คาดสิ้นเดือนนี้จะทราบผล ส่วนกรณีนายปรีชา อ้างว่ากล้องวงจรปิดธนาคารแห่งหนึ่ง สามารถจับภาพขณะมีบุคคลก้มเก็บลอตเตอรี่ ยืนยันยังไม่เห็นภาพ ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งหาพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน.-สำนักข่าวไทย