ห่วง 15 ปีข้างหน้า ค่าใช้จ่ายสุขภาพบานปลาย

กรุงเทพฯ23ม.ค.-นักวิชาการทีดีอาร์ไอ เผยผลศึกษาวิจัยค่าใช้จ่ายสุขภาพคนไทยในอนาคตพบเมื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ งบรักษาพยาบาลบานปลายทั้ง 3กองทุน ป่วย 5 โรคเรื้อรัง ต้องใช้งบสูงถึง 1.4ล้านล้านบาท แนะรัฐนำมาตรการส่งเสริมป้องกันโรคมาใช้ และควบคุมราคาค่ารักษาพยาบาล  


ดร.ณัฐนันท์ วิจิตรอักษร  นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)  แถลงผลการศึกษา “การประมาณค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของการสร้างเสริมสุขภาพ ” ว่า จากการ ศึกษาข้อมูลด้านสุขภาพคนไทยใน 15 ปี ข้างหน้าสุขภาพคนไทยจะเป็นอย่างไร โดยนำข้อมูลสุขภาพของทั้ง 3กองทุน  ได้แก่ สวัสดิการข้าราชการ,ประกันสังคมและสำนักงานกองทุนหลักประกันสุขภาพ เปรียบเทียบและวิเคราะห์ ตั้งแต่ปี2545-2560 จะพบว่าสัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง โดยในปี 2545 อยู่ที่ร้อยละ 9.32 ในปี2550 อยู่ที่ร้อยละ13 และคาดว่าในอนาคตจะยิ่งสูงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสัดส่วนของประชากรผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มวัยเพราะประชากรไทย ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ   


ทั้งนี้ จากการประเมินสัดส่วนของอัตรารายได้กับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะพบว่าหากมีรายได้เพิ่มขึ้น 1 เท่า อัตราค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพก็จะเพิ่มขึ้น 1 เท่าเช่นกันและคาดว่าในอีก 15 ปี ข้างหน้า ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของคนไทยจะอยุ่ที่ 1.4 ล้านล้านบาทและยังพบว่า ในสัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพยังมีบางส่วนอยู่ในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็น เช่น วิตามิน หรืออาหารเสริมด้านความงาม โดยปัจจัยภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เป็นเรื่องของกำลังทรัพย์   


ดร.ณัฐนันท์ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาพบว่า  สัดส่วนของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นยังคงหนีไม่พ้น 5 กลุ่มโรค โรคอ้วน,โรคความดันโลหิตสูง ,โรคโลหิตจาง,โรคข้ออักเสบ,โรคเบาหวาน  ทั้งนี้ แนวทางในการแก้ไขสำหรับค่ารักษาพยาบาลที่พุ่งสูงขึ้นในสังคมผู้สูงอายุ ภาครัฐต้องเร่งหานโยบาย แนวทางรองรับประชากรผู้สูงอายุอย่างจริงจัง เน้นการส่งเสริมป้องกันโรค  เพราะ 5 โรคที่พบเป็นกลุ่มโรคเรื้อรังที่สามารถป้องกันและแก้ไขได้ ด้วยการปรับพฤติกรรม  การรับประทานอาหาร  และการออกกำลังกาย  

ด้าน ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้ และควรทำอย่างมากที่สังคมผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น คือการควบคุมอัตราเพดานค่ารักษา พยาบาล ให้เหมาะสม  เพราะการรักษาโรค การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา ควรจัดเป็นสินค้าควบคุม กระทรวงสาธารณสุข มีอำนาจในการควบคุมได้ และไม่ควรปล่อยให้มีการเปิดเสรีด้านสุขภาพ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน