ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัย์สิน ครม.ประยุทธ์ 5

ป.ป.ช. 19 ม.ค. – ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน ครม.ประยุทธ์ 5 พบรัฐมนตรีหน้าใหม่ “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รวยที่สุด มีทรัพย์สิน 179,116,947 บาท


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 จำนวน 16 คน และกรณีที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 หรือ ครม.ประยุทธ์ 5 อีก 18 คน รวมถึงกรณีรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี จำนวน 6 คน และกรณีพ้นจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครบ 1 ปี จำนวน 2 คน 

สำหรับรัฐมนตรีใหม่ใน ครม.ประยุทธ์ 5 ที่มีทรัพย์สินมากที่สุด คือ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตบอร์ด ปตท. และบริษัทในเครือ เข้ารับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดิมตำแหน่งผู้บริหารในบริษัท ปตท. มีทรัพย์สิน 179,116,947 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยทรัพย์สินเป็นเงินฝาก กองทุนเปิด ทองแท่ง และทองรูปพรรณ รองลงมา คือ นายลักษณ์ วจนานวัช อดีตกรรมการและผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีทรัพย์สิน 84,566,662 บาท ไม่มีหนี้สิน มีทรัพย์สินอื่น เช่น ทองคำแท่ง 55 บาท , นาฬิกา 3 เรือน 30,000 บาท , อาวุธปืน สร้องคอทองคำพร้อมพระเครื่อง 


นายสมชาย หาญหิรัญ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีทรัพย์สิน 72,480,544 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยมีเงินฝากและเงินลงทุนเกือบ 51 ล้านบาท มีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 17 ล้านบาท นายอุดม คชินทร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 66,934,730 บาท โดยทรัพย์เป็นจี้มรกตล้อมเพชร แหวนเพชร พร้อมข้อมือเพชร  

ส่วนนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีทรัพย์มากกว่าหนี้สิน 60,014,448.10 บาท โดยมีทรัพย์อื่นมูลค่า 603,000 ที่เป็นแหวนเพชรต่างหูเพชร และเครื่องประดับอื่น ๆ 

ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 23,005,078 บาท มีทรัพย์สินอื่นเป็นเปียโน 1 หลัง มูลค่า 535,500 บาท  นายกฎษฎา บุญราช อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 15,268,068 บาท มีทรัพย์สินอื่นรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ประกอบด้วย แหวน นาฬิกา 2 เรือน ยื่ห้อ ROLEX และ ยี่ห้อ LONGINES สร้อยคอ พระเครื่อง อาวุธปืน ทองรูปพรรณและเครื่องประดับ


ส่วนนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีทรัพย์สิน 28,489,813 บาท ไม่มีหนี้สิน มีทรัพย์สินอื่นเป็นนาฬิกา 1 เรือนมูลค่า 130,000 บาท ยี่ห้อ Omega Seamaster Aqua Terra  นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันปิโตเลียม เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีทรัพย์สิน 16,028,670 บาทไม่มีหนี้สิน

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มีทรัพย์สินมากว่าหนี้สิน 30,234,354 บาท  ส่วนรัฐมนตรีที่มีการปรับย้ายกระทรวง จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 238,861,209.43 บาท โดยเพิ่มขึ้น 1,082,983 บาท หลังพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ยื่นแสดงรายการทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 237,778,226.81 บาท 

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินรวม 34,821,156.45 บาท ไม่มีหนี้สิน ซึ่งเท่ากับการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีทรัพย์สิน 34,821,156.45 บาท  นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 26,129,821.50 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินเพิ่มขึ้น 91,355.45 บาท หลังพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  มีทรัพย์สินรวม 48,804,646.70 ไม่มีหนี้สิน ขณะช่วงที่พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีทรัพย์สิน 48,913,486.65 บาท  พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอีกตําแหน่ง มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 30,849,028.14 บาท พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีทรัพย์สินรวม 87,545,680 บาท ไม่มีหนี้สิน ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นหุ้นและกองทุน โดยพบว่ามีหุ้นของปูนซีเมนต์ 3,100,000 บาท และหุ้นของ CP ALL มูลค่า 2,000,000 บาท ขณะช่วงที่พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีทรัพย์สิน 87,339,445 บาท  นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 90,836,749.37 บาท ขณะที่ช่วงพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีทรัพย์สิน 90,829,102.92 บาท

ขณะที่นายสนธิรัตน์ สินธิจิรวงศ์ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีทรัพย์สิน 113,291,318.02 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยพบว่ามีทรัพย์สินอื่น ราคาตั้งแต่ 200,000บาท ขึ้นไปกว่า 60 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับเพชร พลอย และพระเครื่องมูล 3 ล้านบาท 2 องค์ และมูลค่า 2 ล้านบาท 1 องค์ แม้จะจำวันที่ได้มาซึ่งทรัพย์สินไม่ได้ทุกรายการ แต่ก็แจงรายละเอียดของราคาอย่างชัดเจน และได้แจ้งทรัพย์สินขณะพ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่ามีทรัพย์สิน  113,227,926.94 บาท ไม่มีหนี้สิน

สำหรับรัฐมนตรีที่พ้นจาก ครม.ประยุทธ์ 4 และไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกจำนวน 9 คน โดยบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ  ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีทรัพย์สิน 1,322,749,324.00 บาท เทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งปี 2557 แจ้งมีทรัพย์มากกว่าหนี้สิน 1,315,332,228 บาท จึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นบาท 7,417,096บาท ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ ม.ล.ปนัดดา เป็นที่ดินมูลค่ากว่า 1,1520 ล้านบาท พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 187,199,090.91 บาท เมื่อเทียบกับกรณีการเข้ารับตำแหน่งปี 2557 แจ้งรายการทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 186,033,607 บาท จึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,165,483 บาท

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 319,090,812.14 บาท พบว่ามีพระเครื่อง 18 องค์ มูลค่า 64 ล้านบาท พระพุทธรูป 33 องค์ มูลค่า 33ล้านบาท เมื่อเทียบกับกรเข้ารับตำแหน่งปี 2557 แจ้งมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 305,195,196.98 บาท จึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 13,895,615,16 บาท

อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยรายการทรัพย์สินวันนี้ (19 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนห้ามถ่ายรายละเอียดภาพถ่ายทรัพย์สิน เนื่องจากเกรงว่าจะนำไปเผยแพร่และถูกนำไปใช้ในทางลบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]