ธปท.รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี”ณิชา”

กรุงเทพฯ  17 ม.ค. – ธปท.รอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี”ณิชา” หากพบยอมให้ใช้บัตรประชาชนคนอื่นเปิดบัญชีธนาคาร จ่อลงโทษปรับหรือห้ามทำธุรกรรมบางประเภท  ด้านสมาคมธนาคารไทย เชื่อแบงก์พร้อมเยียวยาตามหลักการ


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีของ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี ถูกคนร้ายที่เป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่งรวม 9 บัญชี ว่า ได้สั่งการให้สถาบันการเงินทั้ง 7 แห่ง ตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น และรายงานมาที่ธปท.โดยเร็ว ซึ่งหากพบว่า ธนาคารยินยอมให้ผู้ที่ไม่ใช้เจ้าของบัตรประชาชนเปิดบัญชี ถือว่าธนาคารพาณิชย์ไม่ทำตามเกณฑ์ของธปท.ที่ให้ธนาคารพาณิชย์ต้องรู้จักตัวตนของลูกค้า (KYC) ก่อนที่จะให้เปิดบัญชี ธปท.จะมีการลงโทษตามหลักเกณฑ์ของธปท.

ส่วนกรณีที่การกระทำของธนาคารพาณิชย์อาจจะสร้างความเสียหายให้ลูกค้า จะเข้าเกณฑ์การบริหารจัดการด้านการให้บริการกับลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market conduct) ซึ่งจะต้องมีการดูแลผลกระทบและชดเชยลูกค้าอย่างเหมาะสม หากพิสูจน์ได้ว่า ธนาคารพาณิชย์ทำให้ลูกค้าเกิดความเสียหายจริง


ด้านนายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.สายกำกับสถาบันการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ในเชิงลึก และการลงภาคสนามเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร ทั้งในส่วนของระบบการดูแลลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ว่าได้มีการวางเกณฑ์และขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เหมาะสมหรือไม่ รวมทั้งในทางปฏิบัติเอง พนักงานธนาคารได้ดำเนินการให้บริการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้หากพบความผิดของธนาคารพาณิชย์ จะมีโทษได้ใน 2 กรณี คือ โทษปรับ หรือหากพบว่ามีลักษณะความผิดที่ร้ายแรงอาจจะให้หยุดทำธุรกรรมการเงินนั้น เป็นการชั่วคราวหรือถาวรได้

และจากกรณีดังกล่าว ธปท.ยังได้สั่งให้ธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ทั้งหมดที่อยู่กำกับดูแลของ ทบทวนหลักเกณฑ์การให้บริการในลักษณะการรู้จักตัวตนลูกค้าอย่างเหมาะสมด้วย ทั้งการวางระบบหลักเกณฑ์การให้บริการ และการกำชับพนักงานให้มีความจริงจังในทางปฏิบัติมากขึ้นด้วย 

“คาดว่าจะได้ข้อสรุปถึงบทลงโทษ และมาตรการเยียวยา ผู้เสียหาย ภายในสิ้นเดือนนี้  และธปท.จะประกาศลงเว็ปไซด์ ธปท. ซึ่งจะเป็นกรณีแรกตามประกาศฉบับใหม่ในเรื่อง “การบริหารจัดการด้านการให้บริการกับลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market conduct) รวมทั้งตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูล และการเข้าถึงทะเบียนราษฎร์”


ขณะที่ นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า กรณีน.ส. ณิชา ยังอยู่ในกระบวนการสืบหาข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าธนาคารเป็นผู้บกพร่อง ซึ่ง การจะลงโทษพนักงานหรือไม่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป และต้องดูควบคู่ไปกับผลการสอบสวนด้วย แต่หลังจากนี้ธนาคารจะต้องมีความรอบคอบมากขึ้น ซึ่งล่าสุดกระทรวงการคลัง สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานต่าง อยู่ระหว่างร่วมกันพัฒนา e-identify หรือการตรวจสอบตัวตนแบบเรียลไทม์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในช่วงกลางปีนี้ 

ส่วนการเยียวยาผู้เสียหายตามหลักการธนาคารพร้อมรับผิดชอบ แต่ต้องพิจารณาว่าเหตุเกิดจากอะไร และปัจจัยอื่นประกอบ แต่หลังจากกรณีดังกล่าว การเปิดบัญชีต้องทำตาม 7 ขั้นตอนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แม้จะเพิ่มความยุ่งยากและขั้นตอน แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน

ส่วนกรณีรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร ย้ำว่ามีความผิดทางกฎหมาย โดยมีโทษจำคุก1-10 ปี โดยธนาคารมีระบบตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของบัญชี ถ้าหากบัญชีมีความผิดปกติจากลูกค้าทั่วไป เช่น โอนเงิน รับเงินเป็นจำนวนมากอย่างไม่สมเหตุสมผล ไม่สอดคล้องกับอาชีพ ก็จะรายงานสิ่งปกติทั้งหมดให้ปปง. ทราบ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน