นราธิวาส 17 ม.ค.- บั้นปลายชีวิตยายวัย 88 ปี ดีใจที่สุดได้กลับภูมิลำเนาสระแก้ว ขอบคุณอำเภอสุไหงปาดีและอีกหลายหน่วยงานช่วยเหลือตามหาญาติจนพบ หลังพลัดหลงอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่เด็ก กลายเป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์
กรณี น.ส.เพ็ญ ตรีกูล วัย 88 ปี กลายเป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากหลายหน่วยงาน คือ เทศบาลตำบลปะลุรู ที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อให้ตรวจสอบสถานะ หลังได้ย้ายถิ่นฐานมาพร้อมญาติจาก อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แต่เกิดพลัดหลงกันใน อ.สุไหงปาดี ตั้งแต่วัยเยาว์ จนกลายเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่ที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่ได้รับความอนุเคราะห์ให้พักอาศัยในที่ดินของนายกเทศมนตรีตำบลปะลุรู แต่ด้วยอายุมากขึ้น สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ประกอบกับต้องอยู่คนเดียวเสมือนไม่มีญาติพี่น้องมานาน จึงอยากใช้บั้นปลายชีวิตกับครอบครัว กระทั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบฐานข้อมูลในระบบ พร้อมประสานกับสำนักทะเบียนราษฎร์ที่ อ.ตาพระยา สามารถติดต่อกับญาติของ น.ส.เพ็ญ ได้แล้ว เพื่อส่งกลับภูมิลำเนา รวมทั้งคืนสถานะทางทะเบียนตามที่อยู่ในภูมิลำเนาเดิมให้ด้วย
ล่าสุดวันนี้ (17 ม.ค.) นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) อำเภอสุไหงปาดี มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพา น.ส.เพ็ญ เดินทางด้วยรถไฟขบวนด่วนพิเศษจากสถานีรถไฟสุไหงปาดี มุ่งหน้าปลายทางสถานีบางซื่อ เพื่อต่อให้ปลัดอำเภอตาพระยา รับตัว น.ส.เพ็ญ จากสถานีรถไฟบางซื่อ เดินทางกลับภูมิลำเนา อ.ตาพระยา รวมทั้งมอบเงินเป็นขวัญกำลังใจอีกจำนวนหนึ่ง
น.ส.เพ็ญ กล่าวว่า ดีใจอย่างมากและขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนเป็นอย่างดี รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับไปบ้านเกิด เพราะเป็นความใฝ่ฝันที่ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะกลายเป็นความจริงขึ้นมา.-สำนักข่าวไทย