กทม.16 ม.ค.- “ศศิธร วิระเทพสุภรณ์”เจ้าของใบอนุญาตเปิด”วิคตอเรียซีเครท”มอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ หลังศาลออกหมายจับกับพวกรวม 8 หมาย 13 ข้อหา เบื้องต้นให้การปฏิเสธ
หลังศาลอาญารัชดาฯ อนุมัติหมายจับนางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของใบอนุญาตวิคตอเรียซีเครท, นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือป๋ากบ หัวหน้าพนักงานเชียร์แขก, นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย ผู้จัดการ ,นายชัยณรงค์ อันสุข,นายมนัส อ่วมทับ ,นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล ,นายสมชาย แสงอุดม พนักงานเชียร์แขก และนิติบุคคลห้างหุ้นส่วนจำกัดอัมรินทร์ออนเซน โดยนางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ รวม 8 หมาย 13 ข้อหา
นางสาวศศิธร ผู้ได้รับใบอนุญาต”วิคตอเรียซีเครท”ย่านพระราม 9 ก็เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยรับเพียงว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับอีก 10 สถานบริการ และยังพบว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนอีก 6-7 ราย ซึ่งต้องตรวจสอบรายละเอียดส่วนเรื่องกลุ่มนายหน้าทำหน้าที่ส่งเด็กไปต่างประเทศ ยังไม่มีข้อมูลถึง แต่ได้สั่งการให้ตรวจสอบ รวมถึงเสี่ย ก. ที่ปรากฏชื่อว่าเป็นเจ้าของสถานบริการตัวจริง ได้ให้คณะทำงานตรวจสอบ หากมีพยานหลักฐานก็ให้ดำเนินการ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบการจดทะเบียนตั้งสถานบริการวิคตอเรียซีเครท พบว่ามีการจดทะเบียนปี 2509 และพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลล่าสุดในปี 2560 คดีนี้เกิดขึ้นปี 2561 ซึ่งเป็นชื่อของนางสาวศศิธร จึงต้องดำเนินคดีกับนางสาวศศิธร นอกจากนี้ยังได้ประสานขอข้อมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รวบรวมไว้ในวันจับกุม เพื่อนำมาประกอบในสำนวน แต่ยังไม่ได้รับหลักฐาน ซึ่งจะเร่งรัดต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้ขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นที่อาจยังหลงเหลือ หากตรวจสอบพบต้องดำเนินคดีเช่นกัน รวมทั้งประสาน ป.ป.ง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเงินที่ได้มีการโอนไปยังบัญชีบุคคลใดบ้าง เข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ ทั้งยังประสานกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบงบดุลในการประกอบธุรกิจและการเสียภาษี สำหรับนางสาวศศิธร หลังสอบปากคำ จะส่งตัวให้ สน.วังทองหลาง และวันพรุ่งนี้(17 ม.ค.) จะคุมตัวไปฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว
คดีนี้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมดแล้ว โดย 6 คนก่อนหน้าถูกคุมตัวไว้ที่เรือนจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอายัตตัวในข้อหาค้ามุนษย์เพิ่มเติมอีกสำหรับ 13 ข้อหาที่ยื่นขอศาลพร้อมหมายจับ 8 หมาย ประกอบด้วย กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นผู้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคล และเด็กโดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี การแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระท าความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยได้ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกัน และร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์, ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหา หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมเป็นผู้เป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมเป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี, ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง และได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิด 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, เป็นผู้รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม, ร่วมเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในสถานบริการ, ร่วมเป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระท าความผิด และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์มิชอบจากเด็ก, ร่วมกันดำรงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณี อยู่ร่วมกับผู้ซึ่งค้าประเวณีหรือสมาคมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี รับเงินหรือประโยชน์อย่างอื่น โดยผู้ซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้ และไม่จัดทำประวัติของพนักงานก่อนเริ่มเข้าทำงานในสถานบริการ .-สำนักข่าวไทย