จำคุก18 ปี16 เดือน”ป๋าติ๊ก-ป๋ากบ”ค้ากามเด็กวิคตอเรียซีเครท

กรุงเทพฯ 27 ส.ค.- ศาลพิพากษา จำคุก “ป๋าติ๊ก-ป๋ากบ” ผู้จัดการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท 2 สำนวน 18 ปี 16 เดือน ค้าประเวณีเด็กสาว ต่างด้าวอายุไม่เกิน 15 และไม่เกิน 18 ปี ยกฟ้องค้ามนุษย์อัยการเล็งอุทธรณ์ต่อ 


ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์อาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ซึ่งเป็นเด็กหญิงต่างด้าวชาวเมียนมาร์ อายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กสาวอายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี ที่อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง รวม 2สำนวน โดยเบิกตัวจำเลยทั้งหมดมาศาล 

โดยสำนวนแรกเป็นคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเฉลียว จันทร์พิมพ์ / นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือป๋ากบ / นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก / นางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ / ห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออเซน / และนายเดชา สิงห์สาครเดชา หรือหนู จำเลยที่ 1 ถึง 6 เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์จากการบังคับใช้แรงงาน / ร่วมกันเป็นธุระจัดหาเพื่อให้ค้าประเวณีฯ / ร่วมกันเป็นผู้ดูแลกิจการฯ / ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่เพื่อการอนาจาร / รู้ว่าเป็นต่างด้าวให้ที่พักอาศัย / ตั้งสถานบริการโดยไม่ทำประวัติพนักงานฯ / จ้างลูกจ้างอายุต่ำกว่า 18 ปี   


โดยศาลยกฟ้องนายบุญเฉลียว หรือเอส จันทร์พิมพ์ จำเลยที่ 1  (ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำระหว่างพิจารณาคดี) ซึ่งเป็นเพียงผู้ขี่วินรถจักรยานยนต์รับส่งผู้เสียหายระหว่างแมนชั่นที่พักกับที่ทำงานสถานอาบอบนวดโดยไม่ทราบว่าผู้เสียหายนั้นมีอายุเท่าใด และจำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นธุระจัดหาค้าประเวณี

ส่วน นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือป๋ากบ อายุ 55 ปี จำเลยที่ 2 ,  นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก ในฐานะผู้มีอำนาจบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดการสถานบริการ จำเลยที่ 3 นั้นให้จำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน ฐานร่วมเป็นเจ้าของหรือควบคุมค้าประเวณีเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 , พ.ร.บ.ค้าประเวณี พ.ศ.2539 (ทั้งสองถูกคุมขังในเรือนจำระหว่างพิจารณาคดี) 

สำหรับ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ จำเลยที่ 4  ในฐานะผู้มีอำนาจเป็นหุ้นส่วนจำกัด ในห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตดำเนินกิจการนั้น ก็มีความผิดด้วย แต่ให้ลงโทษสถานเบาเนื่องจากเป็นการกระทำโดยส่วนตัวไม่ใช่โดยห้างหุ้นส่วน ให้จำคุก 8 เดือน (จำเลยถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลางระหว่างพิจารณาคดี)  และให้ยกฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5 และให้จำคุก 6 ปี นายเดชา หรือสิงห์สาครเดชา จำเลยที่ 6 (จำเลยได้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี) ตามปนะมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 , พ.ร.บ.ค้าประเวณี พ.ศ.2539 , พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามกานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรข้ามชาติ พ.ศ.2556 โดยจำเลยเป็นผู้ขับรถกระบะพาเด็กสาวผู้เสียหายที่ถูกส่งตัวจาก กทม.ไป อ.สะเดา จ.สงขลา ไปค้าประเวณียังประเทศมาเลเซีย


ทั้งนี้ศาลให้ยกฟ้องข้อหาค้ามนุษย์ เพราะพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอฟังให้ลงโทษ

ส่วนสำนวนที่ 2 พนักงานอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท / นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือป๋ากบ หัวหน้าพนักงานเชียร์แขก / นายชัยณรงค์ อันสุข หรือป๋าสง่า / นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล หรือป๊อป กลุ่มพนักงานเชียร์แขก / ห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออเซน / นางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะผู้มีอำนาจและกรรมการผู้ขอใบอนุญาตเปิดสถานอาบอบนวด / และบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด เป็นจำเลยที่ 1 ถึง 7 ซึ่งเป็นการฟ้องว่าได้ร่วมกระทำผิดต่อเด็กสาวอายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีนั้น 

ศาลมีคำพิพากษาว่า นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ จำเลยที่ 1 , นายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ จำเลยที่ 2 , นายชัยณรงค์ หรือป๋าสง่า จำเลยที่ 3 , นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล หรือพี่ป๊อป  จำเลยที่ 4 มีความผิดเป็นธุระจัดหาฯ จำคุกคนละ 15 ปี 12 เดือน

อย่างไรก็ดีรวมจำคุก นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ กับนายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ ทั้ง 2 สำนวนแล้ว จำคุกทั้งสิ้น 18 ปี 16 เดือน

ส่วน น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ จำเลยที่ 6  ในฐานะผู้มีอำนาจเป็นหุ้นส่วนจำกัด ในห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตดำเนินกิจการ ให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน ทั้งนี้รวมจำคุกทั้ง 2 สำนวนแล้ว รวมจำคุก 7 ปี 14 เดือน

โดยให้ยกฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5 กับบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด จำเลยที่ 7 ที่เป็นเพียงนิติบุคคลเรื่องการเช่าสถานที่ และให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาค้ามนุษย์ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ ได้เปิดเผยว่า จะทำความเห็นเสนอให้อุทธรณ์คดีทั้ง 2 สำนวนนี้ต่อไปในส่วนที่มีการยกฟ้องข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ด้วย 

ขณะที่ในส่วนของนายมนัสหรือป๋านัส อ่วมทับ อายุ 48 ปี และนายสมชายหรือป๋าต้น แสงอุดม อายุ 52 ปี จำเลยร่วม ซึ่งเป็นกลุ่มพนักงานเชียร์แขก ที่แยกฟ้องอีกสำนวนในคดีหมายเลขดำ คม.24/2561 เพราะจำเลยให้การรับสารภาพนั้น ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 ก.ย. นี้ เวลา 09.00 น.

ทั้งนี้ คดีดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังเข้าจับกุมผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับสถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา โดยพบหญิงสาวชาวเมียนมา 113 คน ให้บริการค้าประเวณีอยู่ภายในอาบอบนวด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]