ก.อุตฯ ยืนยันลอยตัวน้ำตาลราคาลดลงแน่

กรุงเทพฯ 16 ม.ค.-
ราคาน้ำตาลทรายหลังลอยตัวถูกแน่ แต่จะเริ่มหาซื้อในราคานี้ได้ในอีกประมาณ
2 สัปดาห์นับจากนี้ไป


หลังจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) ออกคำสั่ง ที่
1/2561 เรื่อง
การแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ
โดยที่รัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ
พ.ศ.
2559 – 2564
ซึ่งต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นสากล
และสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศนั้น ในวันนี้ (
16 ม.ค.)
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายสมชาย หาญหิรัญ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรงอุตสาหกรรม นายพสุ โลหารชุน
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกันแถลงข่าว

นายสมชาย กล่าวว่า
การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ตามประกาศ หัวหน้าคณะ
คสช.ที่ออกมานั้น
จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำตาลทรายในประเทศที่บริโภคปีละประมาณ 
2.6 ล้านตัน
ปรับเปลี่ยนไปเป็นระบบราคาแบบลอยตัวโดยอ้างอิงกลไกราคาตลาดโลกทันที
ซึ่งเบื้องต้นราคาในประเทศ จะปรับลดลงแน่นอน คาดว่า ผู้บริโภคจะเริ่มได้ซื้อน้ำตาล
ราคาใหม่นี้ในช่วงจากนี้ไปประมาณ
2 สัปดาห์
เนื่องจากปัจจุบัน ยังคงมีน้ำตาลทรายที่คำนวณราคาตามระบบเดิมอยู่ในตลาดที่จะค่อยๆ
หมดไป พร้อม ๆ กับการทยอยออกมาของน้ำตาลที่ราคาลอยตัว 


สำหรับราคาขายน้ำตาลในประเทศหลังลอยตัวตามกลไกตลาดจะเป็นราคาที่อ้างอิงกับราคาซื้อขายน้ำตาลทรายตลาดลอนดอนนับเบอร์ 5
บวกด้วยไทยพรีเมี่ยมทุกวัน และบวกด้วยค่าบริหารจัดการ ค่าบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)เป็นผู้ติดตามราคาและแจ้งทางเว็บไซด์
และสำรวจราคาซื้อขายน้ำตาลทรายหน้าโรงงานในประเทศไทยทุกวัน

ทั้งนี้
ราคาขายน้ำตาลทรายไม่มีประเทศไหนในโลกต่ำกว่าราคาตลาดโลก เช่น บราซิล
ราคาจำหน่ายในประเทศสูงกว่าตลาดโลกมากกว่า
2 เท่า และสูงกว่าราคาในประเทศไทย
เพราะราคาไม่ถูกกำหนดด้วยต้นทุน แต่ถูกกำหนดโดยการผลิตและความต้องการในตลาดโลก
สำหรับน้ำตาลทรายซึ่งเป็นสินค้าควบคุมกระทรวงพาณิชย์จะดูแลราคาไม่ให้สูงผิดปกติ
สำหรับรายได้จากการจำหน่ายน้ำตาลทรายทั้งหมดในประเทศจะแบ่งตามสัดส่วนชาวไร่อ้อยร้อยละ
70 โรงงานร้อยละ 30 ตามเดิม
โดยที่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
ยังคงทำหน้าที่ดูแลอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายต่อไป

นายพสุ กล่าวว่า
กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
ตามระบบโครงสร้างอุตสาหกรรมน้ำตาลใหม่ยังคงทำหน้าที่ดูแลเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย  โดยจะมีเม็ดเงินมาจากส่วนต่างราคาน้ำตาลทรายตลาดลอนดอนนับเบอร์
5
กับส่วนต่างที่ได้จากการสำรวจราคาขายหน้าโรงงานในน้ำตาล
50
กิโลกรัมจัดเก็บเข้ากองทุน หากต่ำกว่าโรงงานจะต้องชดเชย
จากเดิมที่มีเงินจากการขึ้นราคาน้ำตาลทรายเข้ากองทุนกิโลกรัมละ
5 บาท ระบบนี้ยกเลิกไป


นายอุตตม กล่าวว่า
แนวทางการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลใหม่แทนรูปแบบเดิมที่ใช้มากว่า
30 ปีเป็นแนวทางที่ผ่านการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว และได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีต้ังแต่ วันที่ 4 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา  โดยแนวทางใหม่นี้สอดรับแนวทางการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทย
และสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ กติกาของการค้าขายภายใต้องค์การการค้าโลกหรือ(
WTO) ขณะเดียวกันยังมีการดูแลผู้บริโภคในประเทศทั้งเรื่องราคาและปริมาณน้ำตาลทรายให้มีเพียงพอ
หลักการสำคัญคือ ภาครัฐจะไม่อุดหนุนโดยตรงกับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายอีกต่อไป
ขณะเดียวกันยังเพิ่มเสถียรภาพให้กับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะกองทุนฯ
เป็นกลไกหลักในการดูแลอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย

การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมครั้งนี้
ราคาน้ำตาลทรายในประเทศ จะไม่ถูกกำหนดโดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอีกต่อไป
แต่จะปรับเปลี่ยนตามกลไกตลาด
จะเกิดประโยชน์ภาพรวมทั้งผู้บริโภคขณะที่ชาวไร่อ้อยยังได้ประโยชน์
ซึ่งประเทศบราซิลรับทราบแนวทางการดำเนินการนี้ของประเทศไทย 
ดังนั้นจึงเชื่อว่าการหารือระหว่างประเทศไทยและประเทศบราซิลเรื่องอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายของไทยจะได้ข้อยุติเป็นอย่างดี

นอกจากนี้
ยังปรับปรุงพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.
2527
เพื่อให้สอดรับกับการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้หารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงพาณิชย์รวมถึงประสานกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ซึ่งมีคณะทำงานในเรื่องนี้ที่ทำงานครบ
90 วันแล้วและได้ข้อยุติส่วนใหญ่ไปแล้วซึ่งจะนำไปสู่การนำร่างแก้ไขพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ….
เข้าสู่การพิจารณาของสนช.ต่อไป

สำหรับการใช้ ม.44 ของหัวหน้า คสช.นั้นเกิดจากกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาและนำเสนอว่า การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายกำลังไปได้ดี และต้องการความต่อเนื่อง
ประกอบกับการเจรจากับประเทศบราซิลก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการให้ออก ม.
44 เพื่อให้สามารถออกมาตรการได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ต้องรอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. …. ผ่านการพิจารณาเสร็จ

นายอุตตม กล่าวว่า ตามที่
คำสั่งหัวหน้าคสช. ม.
44 ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบ
พ.ศ.
2559-2564 มีผลตั้งแต่วันที่ 15
ม.ค.
2561 กระทรวงอุตสาหกรรม
จึงมีชุดมาตรการออกมาที่มีประสิทธิภาพและไม่กระทบทุกฝ่ายผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ร่วมหารือกันมาโดยตลอด

นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ต้องห่วงว่า
น้ำตาลในประเทศจะขาดตลาด
เพราะมีน้ำตาลสำรองหรือบัฟเฟอร์สตอกที่สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)จะร่วมดูแล
โดยโรงงานจะต้องมีสำรองไว้เพื่อการบริโภคภายในประเทศอย่างน้อย
1 เดือนตลอดปี
ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะดูแลราคา
ด้านผลประโยชน์มีการปรับกฎหมายเพื่ออนาคตที่สินค้าเกษตรหลักของประเทศสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพหรือไบโออีโคโนมี่
เช่น อ้อยสู่บรรจุภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเฉพาะทาง ที่ผลประโยชน์จะได้ทั้งชาวไร่และโรงงาน
ขณะที่ผู้บริโภคใช้สินค้าเพิ่มมากขึ้น การส่งออกเพิ่มมากขึ้นย่อมได้ผลดีตามมา

นายสมชาย  กล่าวว่า ม.44 ที่ออกมานั้น
สำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)จะไม่กำหนดราคาน้ำตาลทราย
และจะมีการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ดังนี้  ยกเลิกระบบโควตาน้ำตาล มีการดูแลผู้บริโภคภายในประเทศอย่างเป็นธรรมและไม่เกิดภาวะขาดแคลนในช่วงที่ราคาน้ำตาลผิดปกติ
ซึ่งรัฐมนตรีทั้ง
3 กระทรวงคือ กระทรวงอุตสาหกรรม
กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามร่วมกันมาแล้ว นอกจากนี้
จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยเพิ่มเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกร
มีกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเข้าไปดูแลช่วยเหลือเรื่องเครื่องมือ เครื่องจักรตัดอ้อย
โดยสนับสนุนดอกเบี้ยบ้าง และสินเชื่อบางส่วน
และมีการปรับให้มีการนำเข้าน้ำตาลทรายอาเซียนที่ภาษีนำเข้าเป็นร้อยละ
0 อยู่แล้ว และรูปแบบกำหนดราคาในประเทศเป็นความร่วมมือเอกชนทั้งหมด
เพื่อให้เกิดความสามารถการแข่งขันและปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศด้วยระบบราคาที่นำเข้ามามีราคาใกล้เคียงกันได้
มีการเพิ่มสาขาการผลิตอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมชีวภาพ
จะเป็นการเพิ่มการใช้ประโยชน์จากอ้อยนอกเหนือจากการผลิตน้ำตาล
ลดความเสี่ยงที่ชาวไร่อ้อยที่เดิมพึ่งพิงเฉพาะน้ำตาลทรายเท่านั้น
ขณะที่ชาวไร่อ้อยและโรงงาน จะมีการตกลงทำสัญญาซื้อขายกับบริษัท อ้อยและน้ำตาลไทย
จำกัด ในการส่งออกและเก็บราคาไว้เป็นราคาอ้างอิงเอง ภายใต้กรรมการ
3 ฝ่ายดูแล รัฐจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป

นายพสุ กล่าวว่า
จากการพบและหารือกับตัวแทนประเทศบราซิลที่กรุงลอนดอนประเทศสหราชอาณาจักรล่าสุด
ได้แจ้งความคืบหน้าการแก้ไข
พรบ.อ้อยและน้ำตาลทรายและการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายในประเทศ
ซึ่งทางบราซิลพอใจกับสิ่งที่ประเทศไทยดำเนินการ

นางวรวรรณ ชิตอรุณ
รักษาการเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) คาดว่า
ราคาน้ำตาลทรายหลังลอยตัว ราคาหน้าโรงงาน จะลดลงประมาณ
1- 2 บาท จากเดิม 18 – 19
บาทต่อกิโลกรัม เป็นราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 17 – 18 บาท แต่ราคาขายปลีกในประเทศสัปดาห์นี้ยังไม่ลดลง เนื่องจากมีน้ำตาลระบบราคาเดิมขนส่งออกจากโรงงานไปแล้ว
300,000 ตัน คาดว่า น้ำตาลจำนวนนี้
จะขายหมดปลายสัปดาห์นี้ 
ดังนั้นราคาขายปลีกหลังลอยตัวราคา มีแนวโน้มปรับลดลงภายในสัปดาห์หน้า
ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ต้องออกสำรวจว่า
ราคาขายน้ำตาลขายปลีกจะปรับลดลงตามหน้าโรงงานหรือไม่   ส่วนราคาขายปลีกจะลดลงเท่าใด
ก็อยู่ที่ต้นทุนของผู้ค้าแต่ละรายเป็นสำคัญจึงเป็นหน้าที่กระทรวงพาณิชย์จะไปติดตาม.
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]