นักวิชาการฟันธงเงินบาทไทยมีโอกาสแข็งค่าอีกแน่

นนทบุรี 16 ม.ค.-หอการค้าไทยฟันธงโอกาสค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอีก ส่งผลให้ส่งออกไทยปีนี้โตได้ร้อยละ  6.3 แนะหน่วยงานต้องดูแลไม่ให้ค่าเงินแข็งค่กว่าภูมิภาคอาเซียน


นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ  6.3 คิดเป็นมูลค่า 252,557 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และกลุ่มสภาพยุโรปปรับความสัมพันธ์ทางการเมืองกับไทยดีขึ้น และการทำข้อตกลงกับอาเซียนกับจีน จะส่งผลให้ไทยโอกาสส่งออกไปยังจีนมากขึ้น  ขณะเดียวกันก็จะส่งผลให้สินค้าจากจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ หากค่าเงินบาทไทยแข็งค่ามากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค รวมทั้งจีนชะลอการนำเข้าอย่างและผลิตภัณฑ์ยางจากไทยหลังจากที่นำเข้าสูงมากในปีที่ผ่านมา อาจทำให้การส่งออกไทยปีนี้ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 4 


ทั้งนี้ค่าเงินบาทไทยยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 31.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 5 ปี เพราะสหรัฐฯปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่สูงมากตามที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่า  และส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้น ซึ่งค่าเงินบาทของไทยจะแข็งค่ามากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จากเงินทุนไหลเข้าทั้งในตลาดทุน และตลาดพันธบัตร โดยในปีที่ผ่านมาประเทศไทยค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้านร้อยละ  5.9 และกระทบต่อการส่งออกเป็นในราคา 5,385 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ ประมาณร้อยละ  2.5 ของการส่งออกรวม

นอกจากนี้ ต้องติดตามประเด็นที่จีนจะมีการลดภาษีนำเข้า  รวมไปถึงการขาดดุลการค้าของสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้มีมาตรการกีดกันทางการค้ามากขึ้น แม้สหรัฐจะปรับสถานะไทยจากบัญชีจับตามองพิเศษ (PWL) มาเป็น (WL) เกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาต่อไทยดีขึ้นและคาดว่าไทยจะได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) ในกว่า 2 พันรายการสินค้าในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ก็ตาม ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยในปีนี้ แต่สิ่งที่ต้องติดตามทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่ารวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่อาจจะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นลดลงได้ ดังนั้น หน่วยงานที่กำกับดูแลจะต้องไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่ากลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนและจะต้องดูอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ หากขึ้นไปมากกว่านี้ถือว่าอัตราแรงงานเฉลี่ยต่อวันก็สูงกว่าอาเซียนด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง