สำนักข่าวไทย 12 ม.ค.-คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา มอบ พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เป็นของขวัญวันเด็ก ปีนี้
ศ.กิตติคุณ จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ให้โอวาทเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2561 ว่าวันที่ 13 ม.ค.2561 เป็นวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันสำคัญประจำปี เป็นวันที่ระลึกถึงเด็ก ขณะเดียวกันเด็กก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งของการศึกษา ถ้ามองการศึกษาในปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้น คือการขาดศรัทธาต่อเด็ก จะเห็นว่าเด็กมีความสำคัญ มีโอกาสของตัวเอง ในทางชีววิทยา เด็กเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นเด็กมีความสงสัย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความเป็นตัวของตัวเอง ถ้าให้โอกาสเด็ก ให้การสนับสนุนให้เด็กสามารถที่จะเจริญด้วยตัวเอง มีเรื่องของการศึกษาที่ให้ความศรัทธา ให้ความเชื่อถือ ยอมรับเด็ก โอกาสของการศึกษาก็จะดี
สำหรับการปฏิรูปการศึกษา เป็นเรื่องของการที่ต้องมีความศรัทธาในเด็ก ให้โอกาสเด็ก มีเด็กจำนวนไม่น้อยคงจะเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ ที่จะสามารถสู้กับสภาพการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายได้ แล้วก็ปรับตัวเองได้ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของเด็กสามารถทำให้การศึกษาของประเทศดีขึ้นได้
การปฏิรูปการศึกษาส่วนสำคัญสุด มาจากผู้เรียน มาจากเด็กในอนาคตที่จะต้องมุ่งมั่น ตั้งใจแล้วก็ต่อสู้ เพื่อจะให้เกิดคุณภาพที่ดี เกิดความสามารถที่จะข้ามความลำบากทั้งหลาย ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศ สร้างความสามารถในการต่อสู้กับใครๆ ก็ได้ อันนี้คืออนาคตของประเทศ
ทั้งนี้ การปฏิรูปการศึกษาไม่ใช่เพียงแค่คำ ไม่ใช่เพียงแต่ความคาดหวังหรือจินตนาการ แต่เป็นความจริงที่ต้องเกิดขึ้น และเกิดประโยชน์ คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาได้ไปศึกษาในพื้นที่ ก็เห็นเลยว่ามีเด็กจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีความยากลำบาก ด้วยเหตุผลต่างๆ ทั้งเรื่องของสภาพแวดล้อม ครอบครัว ชุมชน และเรื่องของภายในตัวเด็กเอง รวมถึงเรื่องของความพิการ ความสามารถของสมอง ทั้งหมดเหล่านี้ทำให้เด็กจำนวนหนึ่งไม่สามารถจะเรียนต่อได้ ไม่สามารถเข้าสู่การศึกษาได้ เรียนแล้วก็คุณภาพไม่ดี ทั้งหมดเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าเรามีระบบที่มีการจ่ายเงินค่ารายหัวสำหรับนักเรียน นักศึกษา ก็ยังไม่สามารถ ครอบคลุมได้ทั้งระบบ มีคนอีกจำนวนเป็นล้าน ที่คำนวนออกมาได้เป็นจำนวน 4 ล้านกว่าคน ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ
สำหรับคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ได้ยกร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งเป็นกองทุนขนาดใหญ่เสนอไปยังรัฐบาล และรัฐบาลได้ส่งต่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเป็นการเร่งด่วน และขณะนี้คิดว่าพิจารณาเสร็จแล้ว และส่งกลับไปยังคณะรัฐมนตรี หวังว่าจะออกมาเป็นกฎหมาย ที่เป็นประโยชน์สำหรับเด็กทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ที่มีปัญหาต่างๆ ไม่สามารถที่จะอยู่ในระบบการศึกษาได้ ให้มีโอกาสที่จะเจริญเหมือนกับคนอื่น ๆ และหลุดพ้นจากความยากลำบากของตัวเองได้ นี่คือสิ่งที่เด็กในปีหน้า เมื่อพระราชบัญญัติออกก็จะได้ประโยชน์จากส่วนนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักเรียน แล้วก็จะเป็นของขวัญที่จะให้นักเรียน นักศึกษา ได้สามารถลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองได้ และสามารถจะเจริญก้าวหน้าได้ อันนี้เป็นของขวัญสำหรับเด็กในวันเด็กปีนี้ .-สำนักข่าวไทย