ผู้ตรวจฯไม่ส่งปมเซ็ตซีโร่ กกต ให้ศาลรัฐธรรมนูญ

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 12 ม.ค.- ผู้ตรวจฯ มีมติยุติเรื่องไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญปม เซ็ตซีโร่ กกต. ชี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้วในคดีต่ออายุผู้ตรวจฯ  ระบุรัฐธรรมนูญให้อำนาจ สนช.พิจารณา   


นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงว่า ที่ประชุมผู้การแผ่นดินมีมติยุติเรื่องกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า มาตรา 70 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ที่บัญญัติว่าให้ประธาน กกต. ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.ใช้บังคับพ้นจากตำแหน่ง   นับแต่วันที่กฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่   เนื่องจากผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2560  กรณีประธาน สนช. ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 263  ว่า การที่ร่าง พ.ร.ป.ผู้ตรวจการแผ่นดินกำหนดให้ผู้ตรวจฯชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งจนครบวาระขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

นายรักษเกชา กล่าวว่า โดยศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยตอนหนึ่งว่า มาตรา 273 วรรคหนึ่ง  กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ  ยังคงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฎิบัติหน้าที่ต่อไป  และเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องจัดทำขึ้นตามมาตรา 267 ใช้บังคับแล้ว  การจะดำรงตำแหน่งต่อไปเพียงใดนั้น ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว จึงเป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญมอบให้ฝ่ายนิติบัญญติเป็นผู้มีหน้าที่พิจารณากำหนดการดำรงตำแหน่งต่อไปของผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว  โดยรัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติเรื่องระยะเวลาในการปฎิบัติหน้าที่ต่อไป หรือการพ้นจากตำแหน่ง  รวมถึงเหตุยกเว้นคุณสมบัติของบุคคลดังกล่าวไว้โดยเฉพาะ  


นายรักษเกชา กล่าวว่า การกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ดำรงตำแหน่งต่อไปเพียงใดนั้น อาจกำหนดได้หลายรูปแบบ เช่น ให้ดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะครบวาระ ตามรัฐธรรมนูญ 60  หรือ ให้เฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งที่มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไม่ให้ดำรงตำแหน่งต่อไป  หรือให้ผู้ดำรงตำแหน่งนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งหมด โดยการจะกำหนดให้ใช้รูปแบบใดนั้นจะต้องคำนึงถึงเหตุผลความจำเป็น ความเหมาะสม ทั้งในเรื่ององค์ประกอบ หน้าที่ อำนาจของแต่ละองค์กร  และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 

“ดังนั้นการที่มาตรา  70 ของ พ.ร.ป. ว่าด้วย กกต. กำหนดให้ประธาน กกต.  กกต. ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ก่อน วันที่ พ.ร.ป.กกต.มีผลใช้บังคับพ้นจากตำแหน่งนั้น จึงเป็นการกำหนดรูปแบบ 1 ใน 3 รูปแบบ   ที่ฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งได้รับมอบจากรัฐธรรมนูญให้พิจารณากำหนดได้ โดยคำนึงถึงเหตุผลความจำเป็น และความเหมาะสมขององค์กร ซึ่งเป็นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแล้ว” นายรักษเกชา กล่าว

ส่วนที่นายสมชัย อ้างว่าขัดต่อหลักนิติธรรม เพราะเป็นการมีผลย้อนหลังกระทบต่อสิทธิของ กกต. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนนั้น นายรักษเกชา กล่าวว่า การสมัครเข้าดำรงตำแหน่งของนายสมชัย และ กกต. อยู่บนพื้นฐานความสมัครใจ ไม่ใช่เป็นการเข้ามาประกอบอาชีพ เพื่อแสวงหาสิทธิประโยชน์ เหมือนการสมัครเข้าประกอบอาชีพอื่น  ซึ่งผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งย่อมทราบดีตั้งแต่ต้นแล้ว การดำรงตำแหน่งของนายสมชัย และ กกต. จึงไม่ใช่สิทธิ์ดังที่อ้าง ทั้งการพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ก็ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการให้พ้นโดยผลของกฎหมาย  จึงเห็นว่า มาตรา 70 ของ พ.ร.ป. กกต. ไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม  ไม่ขัดหรือแย้งต่อมาตรา 273  ของรัฐธรรมนูญ   จึงให้ยุติเรื่องและแจ้งผลวินิจฉัยให้นายสมชัยทราบ


เมื่อถามว่ามติของผู้ตรวจฯ จะถูกตำหนิหรือไม่ว่า เพราะผู้ตรวจฯ ได้ประโยชน์เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้อยู่ต่อ   นายรักษเกชา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะคนวินิจฉัยไม่ใช่ผู้ตรวจฯ แต่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยและวางบรรทัดฐานไว้ว่าการให้พ้นจากตำแหน่งทำได้ทั้ง 3 กรณี ซึ่งของ กกต. ก็เป็น 1 ใน 3 แนวทาง จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ตรวจจะไปมีมติให้เป็นอย่างอื่นได้  การวินิจฉัยของศาลมีผลผูกพันธ์ทุกองค์กร พิจารณาตามมติศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง.-สำนักข่าวไทย             

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี