ขสมก.เตรียมเสนอแผนขอปรับขึ้นค่าโดยสาร

กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – ขสมก.ยอมรับเตรียมเสนอแผนขอปรับขึ้นค่าโดยสาร ทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศต่อ คนร. 1.50-2 บาท หาก อนุมัติพร้อมปรับภายในปีนี้ แต่หลังจากนำรถเมล์เอ็นจีวีออกมาวิ่งให้บริการ


ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมปรับขึ้นค่าโดยสาร ทั้งรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ เพื่อให้มีอัตราค่าโดยสารที่เท่าเทียมกับรถเอกชนร่วมบริการ และเพื่อสะท้อนต้นทุนค่าโดยสารที่แท้จริง นั้น นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า ขสมก.ได้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการองค์การ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพบริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่เป็นภาระของภาครัฐ  ซึ่งแผนการขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว  โดยระยะแรกจะขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง คือ รถโดยสารธรรมดาปรับเพิ่มอีก 1.50 บาท และรถโดยสารปรับอากาศปรับเพิ่มขึ้นอีกระยะละ 2 บาท

นายประยูร กล่าวว่า การขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารครั้งนี้ ขสมก.จะต้องนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการเข้าสู่ที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อขอความเห็นชอบก่อน หลังจากนั้นจะต้องนำเสนอแผนฟื้นฟูต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอความเห็นชอบ หากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว ขสมก.ก็พร้อมที่จะปรับอัตราค่าโดยสารภายในปี 2561  แต่การขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารดังกล่าว ขสมก.จะดำเนินการภายหลังจากนำรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คัน เข้ามาให้บริการประชาชนแล้ว


นายประยูร กล่าวว่า ในวันเด็กแห่งชาติที่จะถึงนี้  ขสมก.เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนของชาติ ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ได้รับสิทธิยกเว้นค่าโดยสาร เมื่อใช้บริการรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศของ  ขสมก.ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2561 เพื่อเป็นการสนับสนุนและร่วมฉลองงานวันเด็กแห่งชาติตามนโยบายของรัฐบาล  โดยได้จัดรถโดยสารให้บริการ 2,498 คัน รวม 117 เส้นทาง  รวมทั้งเพิ่มเที่ยววิ่งและการเปลี่ยนกะพนักงานประจำรถอย่างเต็มอัตรา เพื่อรองรับประชาชนที่จะพาบุตรหลานเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่จัดงานวันเด็กในเขตกรุงเทพฯ  และปริมณฑล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง