กรุงเทพฯ 11 ม.ค.- รองโฆษก ตร.เผย ผบ.ตร. เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทุกนายอำนวยความสะดวกประชาชนงานวันเด็กปีนี้ พร้อมให้นโยบาย 4 มิติหลักเข้มความปลอดภัย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2561 โดยจะมีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมสำหรับเด็กขึ้น จะมีเด็กและเยาวชนไปร่วมกิจกรรมจำนวนมาก อาทิ ทำเนียบรัฐบาล ,กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.),ฐานทัพเรือสัตหีบ,กองทัพอากาศ,กระทรวงศึกษาธิการ (วังจันทร์เกษม),พิพิธภัณฑ์สภากาชาดไทย,สวนสัตว์ดุสิต , บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ ,พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ,หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว สถานีตำรวจทั่วประเทศ ในหลายพื้นที่ก็ยังได้จัดกิจกรรมงานวันเด็กหรือร่วมกับหน่วยงานอื่นจัดกิจกรรมงานวันเด็กเช่นกัน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน ในช่วงวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2561 ซึ่งอาจมีมิจฉาชีพฉวยโอกาสก่อเหตุประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือกระทำผิดต่อเด็กในลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะเด็กหายพลัดหลงและการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ จากเครื่องเล่น จึงได้สั่งการ ตร. ทุกหน่วยทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้แก่ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน พร้อมทั้งดำเนินการเพื่อป้องกันเหตุต่าง ๆใน 4 มิติหลัก ดังนี้
1. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ และการกระทำผิดต่อเด็กที่อาจเกิดขึ้นตามสถานที่จัดกิจกรรมที่มีผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
2.ขอความร่วมมือพ่อ แม่ หรือผู้ปกครองได้ดูแลเด็กและเยาวชนในปกครองอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยเด็กไปเที่ยวเพียงลำพัง และควรจัดทำบัตรที่ระบุชื่อผู้ปกครองพร้อมที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงของเด็ก เพื่อความสะดวกในการนำส่งกรณีพลัดหลง
3.ขอความร่วมมือจากหน่วยงานหรือผู้ประกอบการที่จัดกิจกรรมในวันเด็ก ให้ระมัดระวังอันตรายจากการเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ โดยตรวจสอบความพร้อมและความความปลอดภัยของเครื่องเล่น อุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมกับไฟฟ้า และกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่จัดงานที่อยู่ใกล้แม่น้ำ ลำคลอง สระน้ำหรือบ่อน้ำ ควรจัดชุดกู้ชีพกู้ภัยประจำสถานที่เพื่อป้องกันเด็กพลัดตกน้ำและให้การช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที
4.การใช้รถโรงเรียนหรือรถยนต์โดยสารรับจ้างเป็นพาหนะในการเดินทางพานักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นหมู่คณะ ให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะโดยเฉพาะผู้ขับขี่รถโรงเรียนปฏิบัติตามกฎจราจรและให้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ สอดส่องดูแลอย่าให้เด็กห้อยโหน รวมทั้งระมัดระวังการขึ้นรถลงรถของเด็ก และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้ดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 46/2558 ลง 30 ธันวาคม 2558 อย่างเคร่งครัด
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากช่วงวันเด็กแห่งชาติ เด็กๆ และเยาวชน อาจมีการเดินทางไปร่วมกิจกรรมงานวันเด็กในหลายพื้นที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้กำชับ ตร.ทุกหน่วยทั่วประเทศ ตรวจสอบ ดูแล แก้ไขปัญหาการจารจรติดขัดให้น้อยที่สุด และประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน ดังนี้
1. ผู้ขับขี่และควบคุมยานพาหนะทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ขับขี่รถโรงเรียน หรือรถนักเรียนได้โปรดปฎิบัติตามกฎจราจร และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อเด็กและเยาวชนให้มากที่สุด
2.ผู้ใช้รถใช้ถนนได้โปรดให้ความสะดวกแก่รถโรงเรียน หรือรถนักเรียน เพื่อความปลอดภัย ซึ่งจะมีเครื่องหมายเห็นได้ชัดเจน เช่นสัญญาณไฟเหลืองกระพริบ ป้ายบอกว่าเป็นรถโรงเรียนหรือรถนักเรียน
3.รถโรงเรียน หรือรถนักเรียนที่นำนักเรียนท่องเที่ยวหรือชมสถานที่ รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆขอให้มีครูอาจารย์ควบคุมโดยใกล้ชิด
4.การข้ามถนน นอกจากจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายโดยข้ามในทางข้ามหรือสะพานลอยแล้ว ขอให้ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนให้ข้ามทางด้วยความปลอดภัย
5.ขอให้พนักงานชับรถโดยสารประจำทางและพนักงานเก็บค่าโดยสาร ช่วยดูแลอย่าให้เด็กห้อยโหนก่อนจะหยุดรถหรืออกรถจะต้องให้เด็กได้ขึ้นหรือลงรถให้เรียบร้อยก่อน
นอกจากนี้แล้วยังสั่งการให้ทุกหน่วยดูแลความปลอดภัยทางด้านจราจร และเพิ่มความเข้มในการตรวจตรา สืบสวนหาข่าว เฝ้าระวังพื้นที่จุดเสี่ยง จุดล่อแหลมที่สำคัญ สถานที่จัดกิจกรรมวันเด็ก เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมต่างๆ พร้อมทั้งการประชาสัมพันธ์ ผู้ปกครองไม่ให้เด็กออกไปเที่ยวตามลำพัง รวมถึงให้ใช้หมายเลขโทรศัพท์ 191 และ 1599 เป็นหมายเลขในการรับแจ้งเหตุจากประชาชน
สำหรับสถานที่จัดงานวันเด็กสำคัญๆ ที่คาดว่าจะมีเด็กและเยาวชน ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เช่น กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.),ฐานทัพเรือสัตหีบ,กองทัพอากาศ นั้น ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้มีการบูรณาการกำลังร่วมกับฝ่ายทหาร ในการอำนวยความสะดวกการจราจรและการรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีการประสานความร่วมมือกันเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ก็ต้องขอความร่วมมือ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยและอันตรายใดๆที่อาจเกิดขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย