กทม. 10 ม.ค. – ลำดับเหตุการณ์หญิงสาววัย 24 ปี หรือ “ณิชา” กระเป๋าสตางค์หาย และถูกนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร 9 บัญชี พบว่าเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นวันที่ 6 ตุลาคม 2560 กระทั่ง 3 เดือนให้หลัง กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง
เริ่มตั้งแต่ 6 ตุลาคม 2560 น.ส.วณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายบนรถโดยสารสายบางบัวทอง-สาย 2 ขณะที่ 8 ธันวาคมปีที่แล้ว หรือ 2 เดือนเศษหลังกระเป๋าสตางค์หาย น.ส.ณิชา ได้รับโทรศัพท์จากธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งว่าบัญชีมีการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนพฤศจิกายน และมียอดต้องสงสัยโอนมาจากต่างประเทศ 300,000 บาท
10 ธันวาคม น.ส.ณิชา ตรวจสอบกับธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยเซ็นทรัลเวสต์เกต กระทั่งพบว่ามีผู้นำบัตรประชาชนสวมรอยเปิดบัญชีที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเดอะมอลล์บางแค วันที่ 21 ตุลาคม และพบรายละเอียดการโอนเงินจากจีน ยอด 367,636.92 บาท ในวันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 09.00 น. จากนั้น 13.30 น. ยอดเงินถูกถอนออกไป
วันเดียวกัน (10 ธ.ค.) น.ส.ณิชา เดินทางไปตรวจสอบกับธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยเซ็นทรัล เวสต์เกต พบว่ามีชื่อของตนเองถูกนำไปเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาเดอะมอลล์บางแค กระทั่ง 11 ธันวาคม น.ส.ณิชา แจ้งความที่ สน.หลักสอง พร้อมขอหมายดูกล้องวงจรปิด รายการบัญชีเดินสะพัด และคำขอเปิดบัญชีของธนาคารต่างๆ จากนั้นเดินทางไปยังธนาคารแห่งหนึ่ง ขอตรวจสอบข้อมูล กระทั่งพบผู้ก่อเหตุปลอมตัวเป็นตนเอง ทั้งมัดผม ไว้หน้าม้า ส่วนการเปิดบัญชีอีกธนาคาร พบผู้หญิงอีกคนใส่หน้ากากอนามัยอำพรางใบหน้า
ถัดมา 12 ธันวาคม น.ส.ณิชา เข้าคัดลอกสำเนาหลักฐาน พร้อมแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ สน.วังทองหลาง กระทั่งเกิดเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่ สภ.บ้านตาก จ.ตาก มีหญิงสาวทราบชื่อนางกานต์สินี แจ้งความว่าถูกหลอกร่วมลงทุนซื้อที่ดิน หลอกโอนเงินเข้าบัญชี น.ส.ณิชา และคนอื่นๆ รวม 1,300,000 บาท
และวันที่ 4 มกราคม หลังศาลอนุมัติหมายจับ น.ส.ณิชา ได้เข้าแสดงตัวที่กองบังคับการปราบปราม กระทั่งถูกนำตัวส่งดำเนินคดีและถูกฝากขังครั้งแรก ทำให้ในวันจันทร์ที่ 8 มกราคม มารดาและพี่สาวได้ยื่นประกันตัว แต่ศาลไม่อนุมัติ จึงรวบรวมหลักฐานยื่นอุทธรณ์คำสั่ง กระทั่งบ่ายวันเดียวกัน ศาลจึงอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว
และเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) น.ส.ณิชา พร้อมด้วยพี่สาว ได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามเพื่อร้องขอความเป็นธรรม และเร่งรัดดำเนินคดีกับผู้ที่นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร สรุปแล้ว น.ส.ณิชา ถูกนำบัตรประชาชนไปสวมรอยเปิดบัญชีรวมทั้งสิ้น 9 บัญชี จากธนาคารชั้นนำทั้งหมด 7 แห่ง ทั้งพื้นที่บางแค ลาดพร้าว สีลม และงามวงศ์วาน. – สำนักข่าวไทย